
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบกรอบนโยบายและยุทธศาสตร์การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) พ.ศ. 2566 – 2570 ตามที่สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สนอว.) เสนอ เพื่อใช้เป็นกรอบทิศทางและกลไกนำประเทศเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด ให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วภายในปี 2580 ตามยุทธศาสตร์ชาติ ขอขอบคุณ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลที่ได้จัดตั้งกระทรวง อว. ซึ่งได้แสดงผลงานสำคัญและผลสัมฤทธิ์ของการปฏิรูป อววน. มาอย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นและไว้วางใจมอบหมายให้กระทรวง อว. ในฐานะที่เป็นกระทรวงหลักเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสำคัญของประเทศในเรื่องนี้ โดย อว. จะรับเป็นกลไกสำคัญในการดำเนินงานขับเคลื่อน อววน. สร้างความร่วมมือกับเอกชนและภาคีทุกภาคส่วน ทำงานแบบบูรณาการกับทุกกระทรวง เพื่อทำให้เกิดก้าวกระโดดครั้งใหญ่ต่อไป
ด้าน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. ในฐานะกรรมการและเลขานุการของสภานโยบายฯ กล่าวว่า กรอบนโยบายฯ ดังกล่าวประกอบด้วยสองแผนซึ่งเชื่อมโยงกันทั้งแผนด้านการอุดมศึกษาเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนของประเทศ และแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยที่สำคัญในกรอบนโยบายนี้มีการตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุว่าจะเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของประเทศร่วมกันในหลายด้าน ซึ่งทุกหน่วยงานทุกกระทรวงจะได้ทำงานสอดประสานร่วมกันเป็นอย่างดี มีการขับเคลื่อนกรอบนโยบายนี้ไปในทิศทางเดียวกัน เชื่อมโยงทั้งด้านกำลังคน การวิจัยพัฒนา และการใช้ประโยชน์ เพื่อทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป อาหารที่มีคุณค่าและมูลค่าสูง เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง ผู้สูงอายุมีศักยภาพและโอกาสเต็มที่ เป็นจุดหมายของการท่องเที่ยว มีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมก้าวหน้าและเทคโนโลยีอวกาศ รวมไปถึงการสร้างกำลังคนสมรรถนะสูงและเป็นศูนย์กลางของอาเซียนด้วย
ปลัดกระทรวง อว.กล่าวต่อว่า กรอบนโยบายฯ ได้กำหนดวิสัยทัศน์ “สานพลังการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมไทย เพื่อพลิกโฉมให้ประเทศในการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และยั่งยืน ยกระดับความสามารถในการแข่งขันด้วยเศรษฐกิจ สร้างคุณค่าและพร้อมเข้าสู่อนาคต ด้วย 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาเศรษฐกิจไทยด้วยเศรษฐกิจสร้างคุณค่าและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ให้มีความสามารถในการแข่งขัน และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน พร้อมสู่อนาคต ยุทธศาสตร์ที่ 2 การยกระดับสังคมและสิ่งแวดล้อมให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน สามารถแก้ไขปัญหาท้าทายและปรับตัวได้ทันต่อพลวัตการเปลี่ยนแปลงของโลก ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม ระดับขั้นแนวหน้า ที่ก้าวหน้าล้ำยุค เพื่อสร้างโอกาสใหม่และความพร้อมของประเทศในอนาคต และยุทธศาสตร์ที่ 4 การพัฒนากำลังคน สถาบันอุดมศึกษาและสถาบันวิจัยให้เป็นฐานการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศแบบก้าวกระโดดและอย่างยั่งยืน”
“ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี และ รมว.อว. ที่ได้ขับเคลื่อนการปฏิรูปครั้งสำคัญของประเทศ เป็นหนึ่งในผลงานสำคัญของรัฐบาล ที่ทำให้เกิดการปฏิรูปทั้งในเชิงนโยบาย โครงสร้างหน่วยงาน งบประมาณ และกลไกการดำเนินงาน” ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ กล่าว