
ชาวประมงเกาะสุกรปลื้ม วช.-มทร.ศรีวิชัย หนุนงานวิจัย “ธนาคารปูม้า” ต่อยอดสู่อาชีพมั่นคง ชุมชนมีรายได้ แปรรูปเนื้อปูส่งต่างประเทศ
เมื่อวันที่ 14 กค. สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการวช. ได้มอบหมายให้ กลุ่มสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ วช. พร้อมด้วยคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่จ.ตรัง เพื่อเยี่ยมชมผลสำเร็จของการดำเนินงาน โครงการวิจัยเรื่อง “การฟื้นฟูทรัพยากรปูม้าและเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากในชุมชนธนาคารปูม้าพื้นที่ชายฝั่งจ.ตรังและกระบี่” ภายใต้โครงการขยายผลธนาคารปูม้าเพื่อ “คืนปูม้า สู่ทะเลไทย” ที่ วช. ให้การสนับสนุนทุนวิจัย โดยมี ผศ.ดร.วิกิจ ผินรับ รองคณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง จาก มทร.ศรีวิชัย หัวหน้าโครงการวิจัย และทีมนักวิจัย พร้อมด้วย ผศ.มาโนช ขำเจริญ คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง มทร.ศรีวิชัย นายนิรัต ทองพรัด ผู้ดูแลศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าบ้านหาดทรายทอง นายบุญนำ อมรสิริปัญญา ผู้ดูแลศูนย์เรียนรู้ปูม้าและธุรกิจอาหารทะเล และผู้นำชุมชนให้การต้อนรับ ที่ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง
ผศ.ดร.วิกิจกล่าวว่า โครงการฟื้นฟูทรัพยากรปูม้าและเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากในชุมชนธนาคารปูม้าพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดตรังและกระบี่ นั้น ได้ดำเนินโครงการธนาคารปูม้าชุมชนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ พ.ศ. 2561 จนถึงปัจจุบัน มีธนาคารปูม้าชุมชนจำนวน 64 แห่ง และศูนย์เรียนรู้จำนวน 13 ศูนย์ รวมทั้งสิ้นจำนวน 77 แห่ง (9 อำเภอ 54 ชุมชน) จังหวัดตรังจำนวน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.สิเกา อ.กันตัง อ.ปะเหลียน และอ.หาดสำราญ จ.กระบี่จำนวน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.คลองท่อม อ.เหนือคลอง อ.เกาะลันตา อ.เมืองและอ.อ่าวลึก
ในปีงบประมาณ 2565 ได้ดำเนินการปรับปรุงสถานที่จัดตั้งเพื่อพัฒนาธนาคารปูม้าชุมชนเป็นศูนย์เรียนรู้พร้อมทั้งติดตั้งชุดสื่อการเรียนรู้และนิทรรศการในการขับเคลื่อนธนาคารปูม้าชุมชนสู่ความยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดตรังและกระบี่ เพิ่มจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ ธนาคารปูม้าบ้านคลองยวน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ และธนาคารปูม้าบ้านหาดยาว อ.กันตัง จ.ตรัง นอกจากนี้ได้สนับสนุนและบำรุงรักษาวัสดุและอุปกรณ์ในการทำธนาคารปูม้าแบบโรงเพาะฟักชุมชนให้กับธนาคารปูม้าและศูนย์เรียนรู้ของจังหวัดตรังและกระบี่จำนวน 77 แห่ง อาทิ ระบบน้ำ ระบบไฟ ระบบให้อากาศ ถังเพาะฟัก เป็นต้น จัดกิจกรรมวันกินปูม้าตรัง ครั้งที่ 3 เป็นระยะเวลา 2 วัน เพื่อช่วยเหลือชุมชนให้มีรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้ธนาคารปูม้าชุมชนที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปูม้ารวมทั้งกลุ่มเกษตรกรแปรรูปผลิตภัณฑ์สินค้าประมงจ.ตรัง มีรายได้และยอดขายเพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายอาหารหรือผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปูม้าในการออกร้านจำหน่ายปูม้า
ซึ่งผลสำเร็จดังกล่าวได้สร้างรายได้ให้กับชุมชน ผลิตภัณฑ์สินค้าจากเครือข่ายธนาคารปูม้าจังหวัดตรัง ได้แก่ ปูม้านึ่ง นักเก็ตปูม้า ทอดมันปูม้า จ๊อปูม้าเกาะสุกร ปูม้าจ๋า ปูม้าดองน้ำปลา น้ำพริกปูม้า และข้าวผัดปูม้า เป็นต้น สู่การผลักดันผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปูม้าให้ได้มาตรฐานการผลิต GMP และได้รับการรับรองคุณภาพสินค้าตราสัญลักษณ์ประมงธงเขียวและเครื่องหมายฮาลาลเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค จากกิจกรรมดังกล่าวที่จัดขึ้นมีประชาชนสนใจเข้าร่วมงานและซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ปูม้ามากกว่า 3,000 คน ตลอดระยะเวลา 2 วัน มีมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 300,000 บาท ที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ได้มีการนำปุ๋ยส่วนผสมจากเปลือกปูม้ามาใช้ในการปลูกแตงโมแบบโรงเรือนต้นแบบ (แตงโมลอยฟ้า) เกาะสุกร จ.ตรัง ที่สามารถปลูกนอกฤดูการเก็บเกี่ยวได้ อีกทั้งให้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ และมีรสชาติที่หวานกรอบ มีความหวานอยู่ที่ 12.3 บริกซ์ ซึ่งความหวานของแตงโมมาตรฐานปกติจะอยู่ที่ 10-12 บริกซ์ เนื่องจากเปลือกปูม้ามีธาตุอาหารในส่วนของแมกนีเซียมและแคลเซียมอยู่ในปริมาณที่มากซึ่งเป็นธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับพืชทำให้พืชเจริญเติบโตและแข็งแรงดี โดยใช้ปุ๋ยส่วนผสมเปลือกปูม้าในการปลูกแตงโมลอยฟ้าจำนวน 320 กิโลกรัมต่อไร่และทีมนักวิจัยได้ผลักดันกิจกรรมเพื่อสังคมได้ชักชวนชาวประมงในพื้นที่ หน่วยงานภาครัฐและเอกชน รวมถึงเยาวชนในพื้นที่ร่วมกันปล่อยลูกปูม้าคืนสู่ทะเล ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับความรู้ในการทำธนาคารปูม้า และการอนุรักษ์ทรัพยากรปูม้าด้วยการปลูกจิตสำนึกกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรปูม้าไทยให้ยั่งยืน
ทั้งนี้ คณะสื่อมวลชนได้ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมชม ศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้าบ้านหาดทรายทอง และศูนย์เรียนรู้ปูม้าและธุรกิจอาหารทะเล ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง
จะเห็นได้ว่าการใช้ประโยชน์จากการวิจัยจากการร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนและบูรณาการให้เกิดการวิจัยและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มทรัพยากรปูม้าในท้องทะเลไทยนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งผลสำเร็จในการฟื้นฟูและการจัดการการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรปูม้าจะช่วยแก้ไขปัญหาในเชิงพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที ยกระดับการท่องเที่ยว สู่การอนุรักษ์ทรัพยากรปูม้าไทยที่ยั่งยืนต่อไป
สำหรับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่แปรรูปจากปูม้า และองค์ความรู้จากการวิจัยภายใต้โครงการขยายผลธนาคารปูม้าเพื่อ “คืนปูม้า สู่ทะเลไทย” ทีมนักวิจัยจะนำมาจัดแสดงนิทรรศการและจัดจำหน่ายในงาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2566 : Thailand Research Expo 2023” ที่ วช. กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 11 สค.นี้ ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร
ด้านนายนิรัติกล่าวว่า อยากให้จัดเขตอภัยทานเหมือนที่เกาะลิบง เพื่อให้เป็นแหล่งพักพิงของปูม้า
ส่วนนายบุญนำกล่าวว่า ขอบคุณมทร.ศรีวิชัยและวช.ที่ทำให้มีวันนี้จากจุดเริ่มต้นธนาคารปูม้า นำสู่การนำเนื้อปูมาแปรรูป อาทิ จ้อปู ทอดมันปู ขนมผูกรัก และขลุ่ยปู ซึ่งมีออเดอร์ส่งต่างประเทศด้วย อย่างเช่นสิงคโปร์