
มรภ.เลย เดินหน้าพัฒนาบ่มเพาะ “วิศวกรสังคม” เพิ่มศักยภาพการพัฒนาพื้นที่ จ.เลย วช.หนุนงานวิจัยเสริมความแข็งแกร่ง
เมื่อวันที่ 31 สค. สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏ(มรภ.)เลย โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการวช. มอบหมายให้ พลเอก กนก ภู่ม่วง ประธานผู้ทรงคุณวุฒิวช. และผู้ทรงคุณวุฒิ วช. ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการวิจัย เรื่อง “การบ่มเพาะเพื่อเพิ่มศักยภาพการพัฒนาเชิงพื้นที่ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม มรถ.เลย” ซึ่ง วช. ให้ทุนสนับสนุนทุนวิจัย มีผศ.ดร.ยิ่งศักดิ์ คชโคตร รองอธิการบดี มรภ. เลย เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวถึงผลความสำเร็จของการดำเนินโครงการ มีคณะนักวิจัย พร้อมด้วย นายอุทิศ มหามณี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ชาวบ้านในชุมชนบ้านห้วยเหล็ก ให้การต้อนรับ ที่บ้านห้วยเหล็ก ต.กกดู่ อ.เมืองเลย จ.เลย
พลเอกกนกกล่าวว่า วช. ได้สนับสนุนทุนวิจัยแก่มรภ. 38 แห่งทั่วประเทศ ในการบ่มเพาะวิศวกรสังคมด้วยกระบวนการวิจัยและนวัตกรรม เพื่อแก้โจทย์ปัญหาเชิงพื้นที่ โดยอาศัยแนวทางกระบวนการ “วิศวกรสังคม” ซึ่งเป็นกระบวนการพัฒนาคุณลักษณะนักศึกษาให้กลายเป็น นักคิด นักสื่อสาร นักประสาน และนักสร้างนวัตกรรมเพื่อชุมชน เป็นกระบวนการทำงานหลักองค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัยและนวัตกรรม ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาท้องถิ่น ส่งเสริมให้นักศึกษาวิศวกรสังคมสามารถดำเนินการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ ที่บ้านห้วยเหล็ก ต.กกดู่ อ.เมือง จ.เลย โดยนำหลักแนวคิดวิศวกรสังคมมาสู่การสร้างโจทย์และการปฏิบัติงานร่วมกับท้องถิ่นได้อย่างมีส่วนร่วมสร้างความเข้มแข็งการพัฒนาเชิงพื้นที่โดยใช้นวัตกรรมมาช่วยสร้างความเข้มแข็งในทุกมิติ
ผศ.ดร.ยิ่งศักดิ์กล่าวว่า คณะนักวิจัย มรภ.เลย ได้ดำเนินการพัฒนาเชิงพื้นที่ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม มรภ.เลย” ได้เข้ามาแก้โจทย์ปัญหาเชิงพื้นที่ โดยอาศัยแนวทางกระบวนการวิศวกรสังคม เพื่อสร้างคุณลักษณะสำคัญ 4 ประการได้แก่ 1. การคิดเชิงวิพากษ์ 2. ความคิดสร้างสรรค์ 3. ทักษะการทำงานร่วมกับคนอื่น และ 4. การสื่อสาร อันเป็นทักษะจำเป็นเพื่อศตวรรษที่ 21 เพื่อใช้เป็นแบบอย่างในการสร้างบัณฑิตของ มรภ.เลย ที่มีคุณลักษณะสำคัญ 4 ด้าน ประกอบด้วย หนึ่ง มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง
สอง มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม สาม มีงานทำ มีอาชีพ และ สี่ เป็นพลเมืองที่ดี ตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
นายอุทิศกล่าวว่า บ้านห้วยเหล็ก ต.กกดู่ ประสบปัญหาความแห้งแล้งน้ำไม่พอใช้ ไม่เพียงพอต่อการทำการเกษตร จึงคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรชุมชนบ้านห้วยเหล็กให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น
ซึ่งอาชีพเสริมของชุมชนของเรานั้นคือ การรวมกลุ่มกันทำข้าวหลาม และข้าวหลามบ้านห้วยเหล็ก มีความโดดเด่นมีรสชาติหอมหวานอร่อย ไม่เหมือนที่อื่น และต้องการพัฒนาข้าวหลามให้เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน โดยกลุ่มวิศวกรสังคม มรภ.เลย เข้ามามีส่วนช่วยแก้ปัญหาในพื้นที่โดยใช้ทักษะนาฬิกาชีวิตเข้ามามีส่วนช่วยพัฒนาในเรื่องของอาหารให้มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ตัวแทนนักศึกษาวิศวกรสังคม ได้นำเสนอการดำเนินงานผลการการพัฒนาเชิงพื้นที่ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม โครงการที่ได้ดำเนินการในพื้นที่ ประกอบด้วย การร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ การผลิตข้าวหลามบ้านห้วยเหล็กให้เป็นเอกลักษณ์ของชุมชนไปสู่ข้าวหลามพันล้าน โดยการเพิ่มไส้ข้าวหลามให้มีความหลากหลาย สู่การคิดค้นการทำสูตรข้าวหลามไส้สังขยา และการคิดค้นทำสูตรข้าวหลามไส้ฝอยทอง และการพัฒนาวิธีการเก็บรักษาข้าวหลามยืดอายุให้สามารถเก็บรักษาข้าวหลามให้ได้นานยิ่งขึ้น โดยคณะผู้บริหาร ผู้ทรงคุณวุฒิ วช. คณะนักวิจัย ได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเสียงสะท้อนจากการดำเนินโครงการดังกล่าว