
วันที่ 1 ก.พ. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงนามในบันทึกความร่วมมือ กับ Amazon Web Services (AWS) ซึ่งเป็นบริการคลาวด์ที่ครอบคลุมและได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากรด้านเทคโนโลยีคลาวด์ของกระทรวงฯ เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศไทย โดยมี ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงอว. เป็นผู้ลงนามร่วมกับ จูเลี่ยน เลา ผู้จัดการฝ่ายขายกลุ่มลูกค้าภาครัฐ ภาคพื้นเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของ Amazon Web Services พร้อมด้วย ศ.ดร. ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวง อว. ดร.จันทร์เพ็ญ เมฆาอภิรักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง อว. และผู้บริหารกระทรวง อว. เข้าร่วมงานศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเมื่อไม่กี่เดือนที่แล้วทางบริษัทชั้นนำของโลก อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส ได้ตกลงแสดงความจำนง ที่จะลงทุนกับโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของเทคโนโลยีคลาวด์ในประเทศไทย การลงนามในข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ก็จะเป็นกลไกหนึ่งที่จะช่วยสนับสนุนการดำเนินการในเรื่องนี้รวมทั้งการพัฒนาต่อไปด้วย
ในยุคปัจจุบันเป็นยุคของดิจิทัล เทคโนโลยีดิจิทัลมีผลต่อการดำเนินการทั้งในชีวิตประจำวัน การดำเนินงานและในทุกๆเรื่อง ที่สำคัญการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของโลกก็จะใช้เทคโนโลยีพื้นฐานด้านดิจิทัล เป็นสำคัญ ดังนั้น กระบวนการทำงานต่างๆ สอดคล้องเข้ากับทั้งการปฏิบัติงานในปัจจุบันและอนาคต การทำงานในทุกที่ ทุกเวลาที่ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้ถึงแม้จะอยู่ต่างกันคนละจุด สิ่งเหล่านี้ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่าคลาวด์ ปลัด อว. กล่าวต่อว่า กระทรวงอว. ดูแลมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษาของประเทศ เพื่อช่วยในการขับเคลื่อนประมาณกว่า 200 แห่ง รวมทั้งมีสถาบันวิจัยในรูปแบบต่างๆ ประมาณ 30 แห่ง ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานที่เป็นสมองของประเทศในทุกๆด้าน รวมทั้งการผลิตกำลังคน ความร่วมมือในวันนี้มีมิติสำคัญอยู่หลายเรื่อง ทั้งในแง่ของการพัฒนาประเทศ การปฏิบัติงานของภาคเอกชนระดับโลก สิ่งต่างๆเหล่านี้จะช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ภูมิภาค จากการใช้โครงสร้างพื้นฐานของคลาวด์ ทั้งนี้ในการที่จะพัฒนากำลังคนที่จะร่วมดำเนินการในโครงการนี้ บุคลากรต่างๆ ที่จะเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดำเนินงาน ซึ่งจำนวนมากก็ต้องเป็นคนไทยที่เกี่ยวข้องจะเป็นการดำเนินการที่จะดูแล ระบบทั้งในปัจจุบันและอนาคต
รวมทั้งการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ที่สุด เพื่อให้โครงสร้างพื้นฐานที่เกิดขึ้นได้ใช้ประโยชน์อย่างทุกๆด้าน ดังนั้น บทบาทสถาบันการศึกษาของกระทรวง อว. ที่จะเป็นหน่วยงานหลักในการผลิตกำลังคนเตรียมกำลังคนในเรื่องนี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งนี่คือสาระสำคัญของการร่วมมือกันในครั้งนี้ นอกจากนั้นหน่วยงานต่างๆ ของกระทรวง อว. ได้แก่ภาคการศึกษาภาควิจัยภาควิชาการมหาวิทยาลัยต่างๆ ก็มีโอกาสที่จะเข้าถึงเทคโนโลยีและวิธีการชั้นสูงต่างๆ เหล่านี้เพื่อประกอบการทำงานทำให้การทำงานในปัจจุบันและอนาคตทำได้อย่างดี ภายใต้ความร่วมมือการลงนามในวันนี้ นอกจากการที่กระทรวง อว. จะพัฒนากำลังคนผลิตกำลังคนเพื่อที่จะขับเคลื่อนในเรื่องนี้แล้วก็ยังมีการพัฒนากำลังคนของกระทรวง อว. เพื่อที่จะสามารถเข้าใจเข้าถึงและสามารถใช้การในส่วนนี้ได้อย่างดีประกอบด้วยการพัฒนาการศึกษาทำอย่างไรที่จะเอาระบบข่าวมาทำให้ระบบการศึกษาของไทยยิ่งพัฒนาต่อไปรวมทั้งการที่นำไปใช้ประกอบในการทำงานวิจัย สนับสนุนการวิจัยทั้งในมหาวิทยาลัยและทางสถาบันต่างๆ
เรื่องนี้เป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญในการที่แสดงให้เห็นว่านอกจากที่ประเทศไทยมีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ของการพัฒนาอุตสาหกรรมของโลกแล้ว จากการลงทุนต่างๆ จะเห็นได้ว่าประเทศไทย มีโอกาสทางธุรกิจ มีโอกาสก้าวหน้าที่มีมูลค่าสูงยิ่งขึ้นไปอีก การลงนามในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายร่วมกันที่จะยกระดับความรู้ ทักษะในการใช้เทคโนโลยีคลาวด์ พัฒนาเทคโนโลยีคลาวด์ในการทำให้ประเทศไทยมีบุคลากรที่มีทั้งทักษะและความสามารถ มีทั้งปริมาณที่เพียงพอกับการพัฒนาเทคโนโลยีนี้กับประเทศทั่วโลก นอกจากทั้งหมดนี้แล้ว ยังทำให้เกิดการสร้างรายได้อีกด้วย ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการร่วมมือในระยะยาว ซึ่งตั้งเป้าว่าการลงทุนต่างๆ ที่เกิดขึ้นจะใช้เวลาหลาย 10 ปีและนี่คงเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ดังนั้น หวังว่าจะทำให้เห็นว่าประเทศไทยมุ่งจะใช้เทคโนโลยี ใช้บุคลากรทั้งในแง่ของการรับเทคโนโลยี ใช้เทคโนโลยี และพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูงต่อไป ปลัด อว. กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน จูเลี่ยน เลา ผู้บริหารจาก AWS กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้สนับสนุน อว. ในการเดินทางสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ด้วยบริการนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่คุ้มค่าและปลอดภัย รวมถึงการยกระดับบุคลากรให้มีทักษะด้านดิจิทัล เพื่อพัฒนานวัตกรรมด้านการศึกษาและการวิจัยในประเทศไทย” จูเลี่ยน เลา ผู้จัดการฝ่ายขาย กลุ่มลูกค้าภาครัฐ ภาคพื้นเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของ AWS กล่าวว่า “อว. มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการใช้ประโยชน์จากคลาวด์และทำให้ทุกห้องเรียน สำนักงาน และหน่วยงานต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์ของคลาวด์ได้ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย”
เทคโนโลยีคลาวด์จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ อว. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถประหยัดต้นทุนและมีความคล่องตัวในการบริหารงานมากขึ้น ตลอดจนพัฒนาความก้าวหน้าในการดำเนินงาน และการใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนสถาบันอุดมศึกษาไทยให้เป็นมหาวิทยาลัยอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การประมวลผลประสิทธิภาพสูง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และแมชชีนเลิร์นนิง (ML)