
ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานการประชุมอธิการบดีทั่วประเทศ ประจำปี 2566 (President Forum 2023) โดยมี ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. ผู้บริหารกระทรวง อว.และอธิการบดีจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศกว่า 150แห่งเข้าร่วม ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 2 มี.ค.
ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า มหาวิทยาลัยของ อว. ต้องเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในยุคดิสรัปชั่น และต้องไม่เห็นโลกตามแบบคนทั่วไป ปัญญาชนต้องเป็นผู้นำ ต้องใช้ความรู้เพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่ กว่า 3 ปีที่ผ่านมาหลังการหลวมรวมอุดมศึกษากับวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเข้าด้วยกันจนกลายเป็นกระทรวง อว. ซึ่งมีผลงานทั้งการปฏิรูป ปลดล็อคและพัฒนาโครงการใหม่ๆ มากมาย เพื่อพัฒนากำลังคนคุณภาพและสร้างโอกาสให้ประเทศ จนวันนี้ความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทยอยู่ในระดับแนวหน้าของกลุ่มประเทศอาเซียน ล่าสุด อว.ก็กำลังร่วมมือกับสาธารณรัฐประชาชนจีนในการร่วมสำรวจอวกาศผ่านยานอวกาศฉางเอ๋อ 7 ส่งผลให้ใช้งบประมาณของไทยน้อย แต่ได้ผลงานระดับโลก ส่วนด้านอุดมศึกษาก็มีการพัฒนาและปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง มีการแบ่งประเภทมหาวิทยาลัย เพื่อให้มหาวิทยาลัยเป็นเลิศในแบบของตนเอง ปลดล็อกเรื่องเกณฑ์มาตรฐานต่างๆ พร้อมทลายพรมแดนแห่งการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้ประโยชน์สูงสุด
รมว.อว.กล่าวต่อว่า หลังจากนี้เป้าหมายใหม่ของอุดมศึกษาไทย ต้องสร้างให้การอุดมศึกษาของไทยเป็นแบบอย่างและเป็นต้นแบบให้แก่นานาชาติ (Export higher education)ให้ได้ เมื่อก่อนเราหลงกับการเชิดชูผู้ที่เรียนจบต่างประเทศ แล้วแปลความรู้ต่างชาติมาเป็นภาษาไทย บัดนี้เราต้องปรับให้เอาความรู้จุดเด่นและความพิเศษของไทยไปเผยแพร่ให้ต่างชาติรับรู้ ต้องส่งเสริมให้คนต่างประเทศมาเรียนในไทยมากขึ้น นอกจากนั้น อาจขยายการอุดมศึกษาให้เป็นการศึกษาตลอดชีวิต ให้คนทำงาน ผู้สูงอายุ มาเรียนมหาวิทยาลัยได้ แนวทางดังกล่าวจะช่วยแก้ปัญหาการไม่มีนักศึกษาในมหาวิทยาลัยไทยในอนาคต ในขณะที่หน่วยงานให้ทุนก็ต้องช่วยสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อสร้างการโอกาสให้การอุดมศึกษาของไทยให้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
“ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีโอกาสและมีอนาคต เราต้องเชื่อมั่นและทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้วภายในปี 2580 เราต้องเป็นกระทรวง อว. ของประเทศที่พัฒนาแล้วให้ได้” ศ.(พิเศษ) ดร.เอนกกล่าว
ด้าน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์กล่าวว่า ที่ผ่านมา ความก้าวหน้าทางวิชาการด้านการศึกษาของไทยเป็นที่จับตามองของทั้งภายในและต่างประเทศ ชาติมหาอำนาจต่างสนใจและตื่นเต้นกับการปฏิรูปอุดมศึกษาของไทยที่สามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ต่อจากนี้ทุกมหาวิทยาลัยของ อว.ต้องร่วมมือกันทำให้มหาวิทยาลัยไทยเป็นต้นแบบขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ เป็นแบบอย่างของมหาวิทยาลัยโลก และใช้แนวทางแบบไทยๆ เป็นต้นแบบให้ประชาคมโลกให้ได้