คลังเก็บหมวดหมู่: ยานยนต์

2 กลุ่มผู้นำธุรกิจยานยนต์จากเมอร์เซเดส-เบนซ์ เบนซ์ บีเคเค และ ธนบุรีพานิช ผนึกกำลังยกโชว์รูม 5 สาขา จัดทัพรถยนต์เมอร์เซเดสจัดแสดงเต็มพื้นที่

2 กลุ่มผู้นำธุรกิจยานยนต์จากเมอร์เซเดส-เบนซ์เบนซ์ บีเคเค และ ธนบุรีพานิช
ผนึกกำลังยกโชว์รูม 5 สาขา จัดทัพรถยนต์เมอร์เซเดสจัดแสดงเต็มพื้นที่

โชว์ 16 รุ่นไฮไลท์ ที่งาน BIG MOTOR SALE 2024 ไบเทค บางนา

“บริษัท เบนซ์ บีเคเค กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ บริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด” สองกลุ่มผู้นำธุรกิจยานยนต์ 5 ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการ ผนึกกำลังจัดรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลงเต็มพื้นที่กว่า 600 ตารางเมตร จัดแสดงรถครบทุกเซ็กเมนต์ มากถึง 16 คัน สนับสนุนแนวความคิด สะดวก…สบาย! ของคณะผู้จัดงาน เราจะยกโชว์รูมมาขายที่นี่ พร้อมข้อเสนอพิเศษแห่งปี

ภายในงานพร้อมให้ทุกท่านสัมผัสรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ Mercedes-Benz EQS 500 4MATIC SUV AMG Dynamic และอีก 16 รุ่นยอดนิยม พร้อมการบริการสุดพิเศษจากที่ปรึกษาการขาย 5 ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการ Benz BKK Bangna, Benz BKK Vipawadee, Benz BKK Autohaus Kanchanapisek, Thonburi Phanich Lumpini และ Thonburi Phanich Ngamwongwan เพื่อให้ได้รับประสบการณ์เหนือระดับ ไร้ขีดจำกัด จากเบนซ์ บีเคเค และ ธนบุรีพานิช เพราะเรารู้จักเมอร์เซเดส-เบนซ์ ดีที่สุด

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. นายอนุพล ลิขิตพฤกษ์ไพศาล ประธานบริหารฝ่ายค้าปลีกรถยนต์ กลุ่ม บีเคเค กรุ๊ป เปิดเผยว่า “ปีนี้กลุ่ม บีเคเค กรุ๊ป ผนึกกำลังร่วมมือกันทางธุรกิจ ( Collaboration Marketing ) กับ ธนบุรีพานิช เพราะเรามีจุดประสงค์ และเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน โดยการร่วมมือกันในครั้งนี้ใช้กลยุทธ์ดึงจุดเด่นจากจุดแข็งที่ทั้ง 2 กลุ่ม มีสาขาที่ตั้งครอบคลุมพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ เบนซ์ บีเคเค 3 โชว์รูม 3 มุมเมือง ได้แก่ เบนซ์ บีเคเค บางนา, เบนซ์ บีเคเค วิภาวดี และเบนซ์ บีเคเค กาญจนภิเษก ผนึกกำลังกับ ธนบุรีพานิช 2 สาขา ธนบุรีพานิช สาขา ลุมพินี และ ธนบุรีพานิช สาขา งามวงศ์วาน ทำให้สามารถให้บริการลูกค้าที่เข้าชมเทศกาลแสดงยานยนต์สุดยิ่งใหญ่ประจำปี BIG MOTOR SALE 2024 ที่มีลูกค้ากว่า 1 แสนคน เข้ามาชมการจัดแสดงรถยนต์จากค่ายรถชั้นนำมากมาย ได้รับความสะดวก สบาย และได้ประโยชน์สูงสุดจากการเข้าชมงานในครั้งนี้ นอกจากนั้นการรวมตัวกันจะช่วยสร้างโอกาสให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ความร่วมมือกันทางธุรกิจถือเป็นการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย ร่วมมือกันเพื่อต่อยอดและเพิ่มความได้เปรียบให้แก่ธุรกิจของตัวเองอาจจะต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน นำมาซึ่งความเสี่ยงและโอกาส การปรับตัวและพัฒนาตนเองอยู่เสมอจึงสำคัญเพื่อให้สามารถอยู่รอดและเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

การดำเนินงานของธุรกิจยานยนต์ของกลุ่มบริษัทในเครือ บีเคเค กรุ๊ป ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารงานที่เน้นความพึงพอใจสูงสุด ที่มาพร้อมกับประสบการณ์เหนือระดับ ไร้ขีดจำกัด ทั้งด้านการขายและการบริการหลังการขาย และยังคงเน้นการสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งให้กับแบรนด์ทำให้ธุรกิจของเรามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด”

นางนันทนา เลิศบุษศราคาม ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการตลาด ในนามตัวแทนบริษัท ธนบุรีพานิช จำกัด กล่าวว่า “รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมงาน ‘Big Motor Sale 2024’ ยกทัพรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ แบบจัดใหญ่ จัดหนัก จัดเต็ม มาให้ลูกค้าผู้สนใจรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์เลือกชมกันได้อย่างจุใจ ที่งานจะได้พบรถไฮไลท์ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ Mercedes-Benz EQS 500 4MATIC SUV AMG Dynamic และอีก 16 รุ่นขายดี พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ และรับส่วนลดสูงสุด 890,000 บาท
• Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ รับส่วนลด 890,000 บาท เหลือเพียง 4.99 ล้านบาท* + ฟรีประกันชั้นหนึ่ง 1 ปี *
• Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+ เริ่มต้น 5,950,000 บาท FREE Wallbox & Wallbox Installation + ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี*
• EQE 350 4MATIC SUV AMG เริ่มต้น 5,300,000 บาท + ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB PROTECTION 1ปี *
• GLE 300 d 4MATIC AMG Line เริ่มต้น 4,980,000 บาท + ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB PROTECTION 1ปี *
• GLE 220 d 4MATIC Avantgarde เริ่มต้น 3,720,000 บาท + ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB PROTECTION 1ปี *
• GLC 350 e 4MATIC Coupe AMG Dynamic เริ่มต้น 4,340,000 บาท + ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง MB PROTECTION 1ปี *
• CLS 220 d AMG Premium รับส่วนลด 650,000 บาท* เหลือเพียง 3.99 ล้านบาท* + ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1ปี *
• C 220 d AMG Line Trade – in Program รับส่วนลด 150,000 บาท* เหลือเพียง 2.73 ล้านบาท* + ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1ปี *
• C 350 e AMG Dynamic รับส่วนลด 150,000 บาท* เหลือเพียง 3.05 ล้านบาท* (Trade – in Program รับส่วนลด 150,000 บาท* ) + ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1ปี*
• GLA 200 AMG Dynamic รับส่วนลด 60,000 บาท* เหลือเพียง 2.52 ล้านบาท* (ส่วนลด 150,000 บาท* ) + ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1ปี *
พร้อมมอบสิทธิพิเศษมากมาย 23 ส.ค. – 1 ก.ย. ที่ศูนย์นิทรรศการ และการประชุมไบเทค พบกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่บูธ A01 หรือรับดีลพิเศษพร้อมกิจกรรมดีดีตลอดเดือนสิงหาคมนี้ได้ที่โชว์รูมเบนซ์ บีเคเค ทั้ง 3 โชว์รูม 3 มุมเมือง และ ธนบุรีพานิช ทุกสาขา…เพราะเรารู้จักเมอร์เซเดส-เบนซ์ ดีที่สุด

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ :
Benz BKK เบนซ์ บีเคเค บางนา 02 745 2222 I วิภาวดี 02 930 1888 l กาญจนาภิเษก 02 764 4999
Thonburi Phanich ธนบุรีพานิช 02-405-8818

พบกันที่งาน ‘BIG MOTOR SALE 2024’ Mercedes-Benz บูธ A01
24 ส.ค. – 1 ก.ย.ที่ไบเทค บางนา

0 Shares

ฮุนได เปิดตัว 3 ยานยนต์รุ่นใหม่ ในงาน Big Motor Sale 2024

ฮุนได เปิดตัว 3 ยานยนต์รุ่นใหม่ ในงาน Big Motor Sale 2024

พร้อมประกาศราคาประมาณการณ์ใหม่ของ IONIQ ตามโครงการ EV 3.5


ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่อนาคตพลังงานสะอาด! บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด สร้างปรากฏการณ์สู่โลกยานยนต์อีกครั้ง ในมหกรรม Bangkok International Grand Big Motor Sale 2024 ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.- 1 ก.ย. ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา พร้อมเปิดตัวรถยนต์รุ่นล่าสุดถึง 3 รุ่น ทั้ง Staria Trend S (Euro 5), New Stargazer Smart 6 และโทนสีใหม่สุดพิเศษสำหรับ Creta Alpha นอกจากนั้น ยังมีการประกาศราคาประมาณการณ์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า IONIQ ใหม่ หลังบริษัทฯ ได้เข้าร่วมนโยบายส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า EV 3.5 ของภาครัฐ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน พร้อมผลักดันยานยนต์ IONIQ ให้เติบโตในประเทศไทยอย่างมั่นคง

นายเจ กิว จอง ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ตามที่ ฮุนได ได้รับการบัตรส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) สำหรับโครงการประกอบรถยนต์ไฟฟ้า และโรงงานประกอบแบตเตอรี่ไปก่อนหน้านี้นั้น ในขณะนี้ เราอยู่ในระหว่างการรอลงนามบันทึกความเข้าใจของโครงการ EV 3.5 กับกรมสรรพสามิตอยู่ โดยในการเข้าร่วมโครงการ EV 3.5 ของฮุนได ไม่เพียงแสดงถึงความมุ่งมั่นในการกำหนดให้ประเทศไทย เป็นตลาดหลักในภูมิภาคนี้เท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำถึงวิสัยทัศน์ระดับโลกของเรานั่นคือ ‘ความก้าวหน้าเพื่อมนุษยชาติ’ (Progress for Humanity) โดยโครงการของรัฐบาลไทยครั้งนี้ มีความสอดคล้องกับเป้าหมายของเราในการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูงในราคาที่แข่งขันได้ ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้แรงงานในไทย และรักษาชื่อเสียงด้านมาตรฐานขั้นสูงของฮุนไดไปพร้อมกัน”

ปัจจุบัน ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย นำเสนอรถยนต์ตระกูล IONIQ ในไทย 2 รุ่น ซึ่งนำเข้าจากประเทศเกาหลีทั้งคัน ได้แก่ รถเอสยูวี IONIQ 5 ซึ่งมีราคาประมาณการณ์ 1,699,000 บาท ในรุ่น Premium ส่วนรุ่น Exclusive ได้มีปรับราคาประมาณการณ์ใหม่เป็น 1,829,000 บาท จาก ราคาเดิม 1,899,000 บาท โดยรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ได้ผนวกแรงบันดาลใจ จากรุ่นคลาสสิกอย่าง PONY เข้ากับเทคโนโลยีระบบส่งกำลังไฟฟ้า 800V ที่ล้ำสมัย ห้องโดยสารที่มีขนาดกว้างขวางเสมือน เอสยูวี ขนาดใหญ่ โดยสามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางสูงสุด 481 กม.

ส่วนอีกรุ่นคือ IONIQ 6 รถซีดานขนาดใหญ่สุดโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ต ซึ่งมีราคาประมาณการณ์เริ่มต้น 1,899,000 บาท และมีรูปลักษณ์ภายนอกสวยโดดเด่น พร้อมห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับระบบชาร์จมาตรฐาน DC Ultra-Fast 350kW ใช้เวลาในการชาร์จไฟจาก 10 – 80% ภายในเวลาเพียง 18 นาทีเท่านั้น การันตีคุณภาพด้วยการคว้ารางวัลระดับโลกมากมายในเวที World Car of The Year Awards ทั้งปี 2022 – 2023 โดย ฮุนได ประเทศไทย มีแผนขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ IONIQ อย่างต่อเนื่องในอนาคต

ทั้ง IONIQ 5 Premium, IONIQ 5 Exclusive และ IONIQ 6 จะมีกำหนดส่งมอบให้กับลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนก.ย.นี้ เป็นต้นไป ภายหลังจากการลงนามบันทึกความเข้าใจกับกรมสรรพสามิตเสร็จสิ้น โดยลูกค้าที่ได้สั่งจองมาแล้วนั้น จะได้สิทธิ์ในราคาประมาณการณ์ที่ปรับลดลงใหม่นี้ด้วยเช่นกัน

นายวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การเข้าร่วมงาน Big Motor Sale 2024 ถือเป็นโอกาสดีสำหรับฮุนได ในการแสดงความแน่วแน่ของเราในการพัฒนายานยนต์ทั้งด้านนวัตกรรมและคุณภาพ นำไปสู่การเปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่นใหม่ล่าสุด พิสูจน์ให้เห็นว่าฮุนไดไม่เคยหยุดยั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรา ความมุ่งมั่นนี้ไม่เพียงสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ ‘ความก้าวหน้าเพื่อมนุษยชาติ’ เท่านั้น แต่ยังการันตีว่าเราจะมุ่งมั่นส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุด ให้แก่ลูกค้าผู้มีความหมายกับเราต่อไป”

นอกจากการประกาศราคาประมาณการณ์ใหม่ของรถไฟฟ้า IONIQ ฮุนได โมบิลิตี้ ประเทศไทย ยังเปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ Staria Trend S (Euro 5), New Stargazer Smart 6 และ New Creta Alpha ที่มาพร้อมกับสีตัวถังพิเศษผลิตจำนวนจำกัด โดยการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดนี้ จะทำให้ยานยนต์ฮุนไดแต่ละรุ่นเป็นที่น่าสนใจยิ่งกว่าเคย นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้พบกับ แคมเปญส่งเสริมการขายสุดพิเศษทั้งอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.49%1 พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1

 

Hyundai Staria Trend S: ปรับปรุงขุมพลังตามมาตรฐาน Euro 5 ให้สอดคล้องกับมาตรฐานเพื่ออากาศสะอาด ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบขนาด 2.2 ลิตร ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เสริมด้วยการปรับโลโก้แบบใหม่รอบคันเป็นแบบสองมิติ, ล้ออัลลอยด์ ขนาด 18 นิ้ว, เพิ่มพอร์ต USB Type-C และกุญแจรถแบบใหม่ในรูปทรงโลโก้ตัว H โดยเปิดราคาเริ่มต้น 1,819,000 บาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นที่ 0.49%¹ และ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 1 ปี

New Hyundai Stargazer Smart 6: สัมผัส Mini-MPV ที่โดดเด่นด้วยเบาะแถวที่ 2 แบบ Captain Seat พร้อมเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง Hyundai SmartSense โดยในรุ่นล่าสุดมาพร้อมอุปกรณ์เพิ่มเติม ทั้งเบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Hold และ ดิสก์เบรกหลัง โดยเป็นเจ้าของได้ในราคาเริ่มต้น 899,000 บาท พร้อมรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.49%¹ ทั้งยังรับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 1 ปี และฟรีค่าแรงเช็คระยะนาน 2 ปี หรือ 40,000 กม.

Hyundai Creta Alpha: โดดเด่นด้วยตัวถังสีเงินด้าน Silver Matte ใหม่ ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 70 คัน เสริมทัพจากที่ได้แนะนำสีดำด้าน Midnight Matte Black ไปก่อนหน้านี้ โดยสีพิเศษนี้สงวนสิทธิ์ให้กับ Creta Alpha เท่านั้น และสามารถสั่งซื้อได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม Creta Alpha ยังเพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์มาตรฐานทั้งล้อสีดำขนาด 17 นิ้ว, ห้องโดยสารตกแต่งด้วยแนวตะเข็บและขอบสีแดง, เครื่องเสียง BOSE Premium Sound System, หลังคา Panoramic Sunroof และ Hyundai SmartSense ทั้งหมดนี้เป็นเจ้าของได้ในราคา 929,000 บาท มาพร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.99%¹ ทั้งยังรับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งนาน 1 ปี และฟรีค่าแรงเช็คระยะนาน 3 ปี หรือ 60,000 กม.

พิเศษสุด สำหรับลูกค้าฮุนไดที่ร่วมกิจกรรมทดลองขับในงาน รับฟรีคูปองส่วนลด Shopee มูลค่า 300 บาท จำนวนจำกัด เชิญสัมผัสรถยนต์ฮุนไดรุ่นล่าสุด และข้อเสนอสุดพิเศษ ได้ที่บูธฮุนไดในงาน Big Motor Sale 2024 ตั้งแต่ 23 สิงหาคม – 1 กันยายน 2567 ณ ศูนย์การประชุมไบเทคบางนา

1 เงื่อนไขและข้อกำหนดเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
2 แล้วแต่เงื่อนไขใดเกิดขึ้นก่อน

0 Shares

BIG DAYS BIG DEALS’ มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป ยกทั้งโชว์รูมมาไว้ที่งาน BIG MOTOR SALE 2024

BIG DAYS BIG DEALS’ มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป ยกทั้งโชว์รูมมาไว้ที่งาน BIG MOTOR SALE 2024

พร้อมข้อเสนอเปลี่ยนใหม่ทุกวัน ลุ้นรางวัลตั๋วเครื่องบินไป-กลับฮ่องกง 2 ที่นั่ง รวมมูลค่า 325,000 บาท วันนี้ ถึง 1 ก.ย. ไบเทค บางนา

บริษัท มิลเลนเนียม ออโต๊ กรุ๊ป จำกัด ผู้จำหน่ายรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู, มินิ และมอเตอร์ไซค์ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด อย่างเป็นทางการ ภายใต้บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-ASIA จัดแคมเปญพิเศษ ‘BIG DAYS BIG DEALS’ ยกทั้งโชว์รูมมาไว้ในที่เดียวในงาน BIG MOTOR SALE 2024 ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘THE POWER OF CHOICE’ อยากชมรุ่นไหน แบบใด ก็มีให้ครบครัน ทั้งแบบน้ำมัน, ปลั๊ก-อิน ไฮบริด หรือไฟฟ้า 100% กับหลากหลายยนตรกรรมจาก BMW, MINI และ BMW MOTORRAD ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ วันนี้ ถึง 1 ก.ย. ที่บูธ A20/1 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา หรือรับข้อเสนอเดียวกันได้ที่โชว์รูม มิลเลนเนียม ออโต้ ทุกสาขาทั่วประเทศ

นายสมปราชญ์ โบสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “งานนี้ มิลเลนเนียม ออโต้ฯ ทุ่มสุดตัว ยกมาทั้งโชว์รูมเต็มรูปแบบ หลากรุ่น หลายประเภทขุมพลัง รับรองว่ามาที่งานนี้ มีรถที่ถูกใจลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมข้อเสนอสุดคุ้มค่าแน่นอนครับ”

++ Millennium Auto BMW หยิบยื่นข้อเสนอไม่ซ้ำกัน ตลอด 10 วัน และลุ้นรางวัลตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ฮ่องกง 2 ที่นั่งมิลเลนเนียม ออโต้ บีเอ็มดับเบิลยู เล่นใหญ่ ให้ลูกค้าได้ลุ้นรับโชคกันแบบไม่ซ้ำ กับแคมเปญ ‘10 DAYS 10 DEALS’ กับข้อเสนอเปลี่ยนใหม่ทุกวัน และตั๋วเครื่องบินไป-กลับฮ่องกง 2 ที่นั่ง จำนวน 5 รางวัล รวมมูลค่า 325,000 บาท จัดเต็มยนตรกรรมพรีเมียม ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘THE POWER OF CHOICE’ กับหลากหลายทางเลือกของขุมพลัง พร้อมขับเคลื่อนทุกความต้องการ

• 220i | X1 สมรรถนะสูงเร้าใจ ท้าทายในแบบฉบับเครื่องยนต์เบนซิน
• 320d | X4 20d เครื่องยนต์ดีเซล อัตราเร่งตอบสนองฉับไว และประหยัด
• 530e | X5 45e ที่สุดแห่งสุนทรียภาพในการขับขี่ เทคโนโลยีปลั๊ก-อิน ไฮบริด ตอบโจทย์ ทุกไลฟ์สไตล์
• iX | i7 ขับเคลื่อนชีวิตสู่อนาคตที่ก้าวล้ำและรักษ์โลกแบบยั่งยืน ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100%

พร้อมรับข้อเสนอพิเศษ
• BMW 220i Gran Coupe M Sport ราคาเพียง 1.99 ล้านบาท ฟรีชุดแต่ง M Performance Parts มูลค่า 99,999 บาท*
• ดอกเบี้ยพิเศษ 0% นาน 4 ปี*
• ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งสูงสุด 5 ปี*
• ฟรี อัปเกรด BSI สูงสุด 6 ปี*
• ฟรี BMW Wall Box*
• นำรถเก่ามาแลกรถใหม่ รับคะแนนสะสม MGC MOBILIFE สูงสุด 100,000 คะแนน*

++ ‘10 คัน 10 วัน ไมล์หลักสิบ’ รถผู้บริหาร BMW ป้ายแดง เลขไมล์เริ่มต้นหลักสิบกิโลเมตร เริ่มต้นเพียง 1.99 ล้านบาท และรถรับรองการประชุมผู้นำนานาชาติ BIMSTEC เลขไมล์หลักร้อย*
• BMW 330e M Sport LCI
• BMW 520d M Sport
• BMW iX3 M Sport Inspiring
• BMW X3 xDrive30e M Sport LCI

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองและออกรถ รับข้อเสนอพิเศษ ไม่ซ้ำกันแต่ละวัน จนจบงาน**
• Day 1 – ฟรี กล้องติดรถ BMW Advanced Car Eye 3.0 Pro มูลค่า 28,900 บาท*
• Day 2 – ฟรี บัตรน้ำมัน มูลค่า 30,000 บาท*
• Day 3 – ฟรี Gift Voucher จาก Central มูลค่า 20,000 บาท*
• Day 4 – ฟรี บัตรกำนัล Pool Villa จาก Anantara Vacation Club Mai Khao Phuket 3 วัน 2 คืน มูลค่า 109,662 บาท*
• Day 5 – ฟรี ดอกเบี้ย 0 % X 48 เดือน* (เฉพาะรุ่นที่กำหนด)
• Day 6 – ฟรี เคลือบแก้ว จาก AutoSmart มูลค่า 40,000 บาท*
• Day 7 – ฟรี หูฟัง Bowers & Wilkins มูลค่า 17,500 บาท*
• Day 8 – ฟรี GoPro Hero 10 มูลค่า 8,900 บาท*
• Day 9 – ฟรี Dinner Voucher จาก Ms.Jigger at Kimpton Maa-Lai Bangkok มูลค่า 8,000 บาท*
• Day 10 – ฟรี สมาร์ทวอทช์ Garmin Venus 2S มูลค่า 13,600 บาท*

++ MINI Millennium Auto ฉลองวันเกิดครบ 65 ปี แบบมี BIG SURPRISE
มินิ มิลเลนเนียม ออโต้ มาแบบ BIG Surprise กับการฉลองครบรอบวันเกิด 65 ปี ยกมาหมดทั้งโชว์รูม ทั้งรถมินิไฟฟ้า, รถผู้บริหารไมล์น้อย และ มินิ เน็กซ์ (MINI Next) รถมือสอง คัดสรรคุณภาพมาตรฐาน กับราคาสุดคุ้ม
• ฉลองแคมเปญ MINI 65th Birthday Celebration สำหรับ Current Model พิเศษ! เลือกรับดอกเบี้ย 0% ทุกรุ่น หรือ ผ่อนนานสูงสุด 65 เดือน*
• The All-New MINI Cooper SE ราคาเพียง 1.699 ล้านบาท* วิ่งได้ไกลสุดถึง 402 กิโลเมตร
• MINI Next รุ่น MINI Countryman ราคาเพียง 1.29 ล้านบาท*
• รถผู้บริหารป้ายแดง MINI Countryman Highlands Edition ราคาเพียง 1.99 ล้านบาท*
• นำรถเก่ามาแลกรถใหม่ รับคะแนนสะสม MGC MOBILIFE สูงสุด 100,000 คะแนน*

++ BMW MOTORRAD Millennium Auto ยกขบวนมาครบ ไม่ว่าสายไหน ก็ถูกใจแน่นอน
สัมผัสที่สุดของมอเตอร์ไซค์แอดเวนเจอร์รุ่นล่าสุด กับ BMW R1300GS สมทบด้วยรุ่นยอดนิยม BMW R1250 GSA พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษแบบจุใจ
• BMW R18 B รับส่วนลดเงินสด สูงสุด 600,000 บาท*
• ออกรถ 0 บาท*
• BMSI 3 ปี*
• ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง*
• Warranty & Mobility Service 5 ปี*
• ใช้คะแนนแลกรับเงินคืน 30% สูงสุด 15,000 บาท จากบัตรเครดิตชั้นนำ*
• สินค้าไลฟ์สไตล์ลดสูงสุด 50%*

คุ้มค่าอีกระดับกับ มิลเลนเนียม ออโต้ ลูกค้าสมัครสมาชิก MGC-MOBILIFE รับทันที 1,000 คะแนน และทุกการจองรถในงาน (BMW, MINI, MOTORRAD) รับคะแนนสะสม (ทุก 100 บาท = 1 คะแนน) เพื่อแลกรับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิ บัตรโดยสารสายการบิน, บริการเช่าเหมาลำเรือ, ที่พักโรงแรมหรู, ร้านอาหารชั้นนำ และอีกมาก

โชว์รูม มิลเลนเนียม ออโต้ มีทั้งหมด 10 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็น 6 สาขาในกรุงเทพฯ คือ ลาดพร้าว, พระราม 3, พระราม 4, พัฒนาการ-ศรีนครินทร์, สยามพารากอน, ไอคอนสยาม รวมถึงอีก 4 สาขาต่างจังหวัด คือ อุบลราชธานี, ภูเก็ต, หาดใหญ่ และสุราษฎร์ธานี

สอบถามข้อมูล โทร.1286 Millennium Auto Connect
Line Official: https://bit.ly/2Z3ou46 (@millenniumauto)
https://www.millenniumauto.co.th

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
**สงวนสิทธิ์รับของรางวัลในแต่ละวัน สำหรับลูกค้าท่านแรกที่จอง (First Come First Serve)

0 Shares

CHANGAN Auto Thailand ฉลองความสำเร็จครบรอบ 1 ปี ในตลาดรถไฟฟ้าไทย

CHANGAN Auto Thailand ฉลองความสำเร็จครบรอบ 1 ปี ในตลาดรถไฟฟ้าไทย

ตอกย้ำความแข็งแกร่งด้วยยอดขาย 8,000 คัน เร่งขยายศูนย์บริการกว่า 100 แห่งในปี 2568

“CHANGAN ประเทศไทย” ฉลองความสำเร็จ 1 ปี ด้วยเสียงตอบรับจากชาวไทยเป็นอย่างดีในตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของไทย ด้วยรถไฟฟ้า DEEPAL L07, L07 S, S07, S07 L, LUMIN DC การพัฒนานี้ถือเป็นก้าวสำคัญในด้านนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ยั่งยืน และเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ด้วยยอดขาย 8,000 คัน และศูนย์บริการ 30 แห่งทั่วประเทศ พร้อมเตรียมขยายต่อเนื่องอีก 60 แห่งภายในปี 67 และครบ 100 แห่งในปี 68 และเปิดตัวรถรุ่นใหม่ AVATR และ DEEPAL E07 ในปีนี้อีกด้วย ด้าน “นายเซิน ซิงหัว ผู้บริหารฉางอาน” ขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อพันธมิตรที่ร่วมมือและสนับสนุน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการบรรลุเป้าหมายสำคัญ ทำให้ CHANGAN มีรากฐานที่แข็งแกร่งในอนาคต

เมื่อวันที่ 22 ส.ค. นายเซิน ซิงหัว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซาท์อีสเอเชีย จำกัด ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า CHANGAN (ฉางอาน) เปิดเผยว่า CHANGAN Thailand ได้เดินทางมาครบ 1 ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มตั้งแต่
การจดทะเบียนบริษัท และการเปิดตัวแบรนด์ CHANGAN ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และการทำตลาดด้วยแบรนด์ DEEPAL ในรุ่น S07 และ L07 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ระดับพรีเมียมในตลาดไทย แม้ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ก็ตาม

1 ปีกับความสำเร็จของ CHANGAN มียอดขายเกินกว่า 8,000 คัน และส่งมอบแล้วเกือบ 6,000 คัน โดยเกือบ 5,000 คันเป็น DEEPAL S07 จนทำให้ติดอันดับท็อป 10 ของตลาด SUV ทั้งหมด ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 2.6% และอันดับ 2 ในกลุ่ม C-SUV ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 21% นอกจากนี้ ยังครองอันดับ 1 ในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในช่วงราคาระหว่าง 1.3 ถึง 1.5 ล้านบาท พร้อมกันนี้เรายังได้จ่ายภาษีให้กับประเทศไทยเกือบ 1,200 ล้านบาท ด้วย

ปัจจุบัน CHANGAN มีการขยายโชว์รูมไปทั่วประเทศกว่า 60 แห่ง โดยเปิดดำเนินการแล้ว 30 แห่ง ครอบคลุมจังหวัดสำคัญ 25 จังหวัด และปี 2025 ตั้งเป้าที่จะขยายโชว์รูมให้ครบ 100 แห่ง โดยบริษัทมีความมุ่งมั่นในการให้บริการลูกค้าอย่างมีคุณภาพ ด้วยการพัฒนาโครงการ “Project NO.1” เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และยกระดับความพึงพอใจ

นอกจากนี้ CHANGAN Thailand ได้พัฒนาคลังอะไหล่ขนาดกว่า 3,000 ตารางเมตร ที่สามารถเก็บอะไหล่กว่า 2,000 ประเภท และชิ้นส่วนมากกว่า 40,000 ชิ้น ทำให้สามารถจัดส่งอะไหล่ครอบคลุมกว่า 95% ของประเทศภายใน 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังเปิดตัวศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ดิจิทัลใหม่ในวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งยกระดับความสะดวกสบาย และคุณภาพการบริการแก่ลูกค้าทั่วประเทศอีกด้วย

“สำหรับการก่อสร้างโรงงานที่จังหวัดระยองและจะเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาของ CHANGAN ทั่วโลก ด้วยการลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท โดยดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 80% และมีกำหนดเริ่มการผลิตในไตรมาสแรกของปี 2025 โดย CHANGAN ได้ใช้ซัพพลายเออร์ท้องถิ่นกว่า 300 ราย และมีแผนที่จะเพิ่มอัตราส่วนชิ้นส่วนท้องถิ่นในรุ่นที่ผลิตในประเทศต้นปีหน้าถึง 50% ในด้านบุคลากรท้องถิ่น ได้ว่าจ้างพนักงานเกือบ 300 คนในกรุงเทพ รวมถึงที่จังหวัดระยอง คิดเป็นร้อยละ 70% ของพนักงานทั้งหมด และยังมีแผนที่จะส่งพนักงานที่มีทักษะประมาณ 100 คนไปฝึกอบรมที่ฉงชิ่งในเดือนกันยายนนี้ด้วย” นายเซิน ซิงหัว กล่าว และกล่าวต่อไปว่า

แนวโน้มตลาดยานยนต์คาดว่าในปี 2024 ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 90 ล้านคัน และยอดขายยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) จะเพิ่มขึ้นถึง 17 ล้านคัน ซึ่งแสดงถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาด NEV โดยจีนยังคงเป็นผู้นำในกระแสนี้ และคาดว่ายอดขาย NEV ในจีนจะถึง 11.5 ล้านคันในปี 2024 และตลาด EV ของไทยจะเติบโตอย่างรวดเร็วและมั่นคง ด้วยการสนับสนุนจากนโยบายของรัฐบาล และแรงขับเคลื่อนจากลูกค้าพลังงานใหม่ โดยตลาดของ BEV ในไทยเติบโตกว่า 15% ในกลุ่มรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว

นอกจากนี้ CHANGAN THAILAND มีแผนเปิดตัวแบรนด์ AVATR ในเดือนกันยายนนี้ และในงาน Motor Expo เดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ จะมีการเปิดตัว DEEPAL E07 ลูกผสมระหว่าง SUV และกระบะขนาดใหญ่ และมีแผนเปิดตัวรุ่นที่ผลิตในประเทศจากโรงงานระยองในไตรมาสแรกของปี 2025 โดยจะเป็นรุ่นแบบ BEV และ REEV ซึ่งเป็นเทคโนโลยี DEEPAL Super REEV สามารถขับขี่ได้ไกลถึง 1,000 กิโลเมตรจากการชาร์จและเติมน้ำมันเต็มถังอีกด้วย

นายเซิน ซิงหัว กล่าวอีกว่า แน่นอนว่าจีนเป็นผู้นำ NEV ทั่วโลกนี้ในปี 2024 ยอดขายรถยนต์ใหม่ในจีนคาดว่าจะถึง 31 ล้านคัน โดยเพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบเป็นรายปี อย่างไรก็ตามยอดขาย NEV คาดว่าจะขึ้นถึง 37% หรือ 11.5 ล้านคันภายในปี 2030 โดยโครงสร้างพลังงานของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในจีนคาดว่าจะเป็น EV 40%, XEV (รวมถึง PHEV และ REEV) 40% และเครื่องยนต์สันดาปภายในและ HEV 20% เน้นย้ำถึงบทบาทผู้นำของจีนในการพัฒนา NEV ทั่วโลก

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลไทยก็กำลังดำเนินนโยบาย 30@30 เพื่อสอดคล้องกับแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว การอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารที่เข้มงวดขึ้น และความต้องการยานยนต์ในประเทศไทยที่ลดลง แต่อัตราการเข้าถึงตลาด BEV ในเซกเมนต์รถยนต์นั่งส่วนบุคคลยังคงมากกว่า 15% ดังนั้นด้วยการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและแรงผลักดันจากลูกค้าพลังงานใหม่ ตลาด EV ของไทยคาดว่าจะเติบโตอย่างรวดเร็วและมั่นคง ซึ่งจะทำให้นโยบาย 30@30 ประสบความสำเร็จ

“ในฐานะบริษัทที่มุ่งมั่นพัฒนาระยะยาวในประเทศไทย เรายึดมั่นในหลักการ “By Thai, For Thai, Rooted in Thailand” โดยมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีเยี่ยม เพื่อเป็นการตอบแทนให้กับคนไทยที่ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี โครงการ CSR ของเราจะเน้นเรื่องความยั่งยืน การศึกษา และการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น เราเชื่อว่าการตอบแทนชุมชนไม่ใช่แค่ความรับผิดชอบ แต่เป็นสิ่งพิเศษที่เราจะมอบให้ เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน” นายเซิน ซิงหัว กล่าวสรุปในตอนท้าย

#####
สำหรับผู้ที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้า DEEPALทุกรุ่นสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ หรือติดตามรายละเอียด และเงื่อนไขต่าง ๆ ได้ทางเว็บไซต์ www.changan.co.th และ www.facebook.com/changanofficialth หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 078 6666

0 Shares

”เอ็กซ์เผิง“เปิดตัวแบรนด์ ‘XPENG’ และยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ‘G6’ ดีไซน์และเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ สู่มิติใหม่แห่งการเดินทางอย่างยั่งยืน

”เอ็กซ์เผิง“เปิดตัวแบรนด์ ‘XPENG’ และยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ‘G6’ ดีไซน์และเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ สู่มิติใหม่แห่งการเดินทางอย่างยั่งยืน

เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง ต่อรูปแบบของการเดินทางในอนาคต’ วิสัยทัศน์อันเปี่ยมด้วยความหมายและแรงบันดาลใจ ของ มร. เหอ เสี่ยวเผิง (He Xiaopeng) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ‘เอ็กซ์เผิง’ (XPENG) เป็นพลังขับเคลื่อนให้เกิดการวิจัยและพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะจากซีกโลกตะวันออก ไปสู่ตลาดรถยนต์ระดับโลก รวมถึงในเมืองไทย ที่วันนี้ เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ‘เอ็กซ์เผิง’ อย่างเป็นทางการ จัดงานเปิดตัวแบรนด์ พร้อมภูมิใจนำเสนอยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับพรีเมียม-ไฮเทค เอ็กซ์เผิง รุ่น ‘จีซิกส์’ (G6) อย่างเป็นทางการ ท่ามกลางเหล่าผู้ชื่นชอบยนตรกรรมไฟฟ้า ที่ตบเท้าเข้าร่วมงานพร้อมสัมผัสอย่างใกล้ชิด ที่สเฟียร์ ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์ กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้

มร. เจมส์ วู รองประธานฝ่ายบัญชีและการเงิน, เอ็กซ์เผิง มอเตอร์ส กล่าวว่า “เอ็กซ์เผิง เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าอัฉจริยะ และเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าทุกระดับ ที่หลงใหลในเทคโนโลยี
ล้ำสมัย โดยเราเชื่อว่าเทคโนโลยี เป็นสิ่งที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง ต่อรูปแบบของการเดินทาง
ในอนาคต ปัจจุบัน เอ็กซ์เผิง ได้รับความนิยมเพิ่มต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศแถบยุโรป รวมไปถึงตะวันออกกลาง เรามีนโยบายในการทำตลาดระดับโลก ผ่านความร่วมมือกับผู้จัดจำหน่าย
ในประเทศ เพื่อสร้างเครือข่ายในการจำหน่ายที่ครอบคลุม พร้อมบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ ผสานการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสม กับกลุ่มลูกค้าในประเทศไทย”

นายอภิวันท์ สิงห์ทวีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย กล่าวว่า “เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจจาก เอ็กซ์เผิง มอเตอร์ส ให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย ‘เอ็กซ์เผิง’ ยานยนต์ไฟฟ้าอัฉจริยะระดับพรีเมียม-ไฮเทค อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็น
ส่วนหนึ่งในการสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบในประเทศไทย ผ่านยานยนต์ไฟฟ้า
ที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในประเทศไทย
ได้อย่างลงตัว พร้อมนำเสนอมิติใหม่แห่งการเดินทางอย่างยั่งยืน”

++ XPENG แบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ขับเคลื่อนสู่อนาคต ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย
เอ็กซ์เผิง แบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ก่อตั้งช่วงปี 2557 โดย มร. เหอ เสี่ยวเผิง (He Xiaopeng) ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ว่า ‘เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง ต่อรูปแบบของการเดินทาง
ในอนาคต’ โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับเทคโนโลยีล้ำสมัย พิสูจน์ได้จากสัดส่วนกว่า 40%
ของพนักงานทั้งหมดร่วม 20,000 ชีวิต ทำงานอยู่ในแผนกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อผลิต
ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะที่มาพร้อมเทคโนโลยีอันก้าวล้ำ ไปถึงยานยนต์บินได้ หุ่นยนต์สุดไฮเทค
และอื่นๆ หลังจากนั้นเพียงสองปี เอ็กซ์เผิง ก็สามารถผลิตยานยนต์ไฟฟ้าต้นแบบรุ่นแรกสำเร็จ

จังหวะการขับเคลื่อนธุรกิจของ เอ็กซ์เผิง ก้าวหน้าเป็นลำดับ นอกจากแผนในการเปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะแต่ละรุ่นอย่างต่อเนื่อง อาทิ G3, P7, G9 เป็นต้น ยังนับเป็นก้าวสำคัญกับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (NYSE-New York Stock Exchange) ขณะเดียวกัน
ก็ได้รุกตลาดเข้าสู่ประเทศแถบยุโรป เปิดโชว์รูมในหลากหลายประเทศ อาทิ ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, สิงคโปร์, มาเลเซีย, เนเธอร์แลนด์, สวีเดน และ เดนมาร์ก มีนำเสนอระบบขับอัตโนมัติบนทางหลวง (NGP-Navigation Guided Pilot) เป็นรายแรกในประเทศจีน พร้อมเปิดตัวแฟลกชิปสมาร์ทเอสยูวีรุ่น ‘G9’ ควบคู่ไปกับการเฉลิมฉลองในโอกาสที่รุ่น ‘P7’ ได้รับการผลิตครบ 100,000 คัน

สำหรับปีที่ผ่านมา เอ็กซ์เผิง ได้เปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะสองรุ่น คือ อัลตร้าสมาร์ทเอสยูวีคูเป้ ‘G6’ และ ‘X9’ อัลตร้าสมาร์ทเอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ที่พกพาเทคโนโลยีสุดล้ำสมัย ภายใต้โรงงานผลิต 3 แห่งในประเทศจีน คือ จ้าวชิง, กวางโจว และอู่ฮัน ที่มีกำลังผลิตรวมสูงกว่า 600,000 คันต่อปี พร้อมขยายการทำตลาดไปอีกหลายประเทศทั้งในยุโรป และทวีปอื่นๆ ทั่วโลก

++ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ‘XPENG G6’ ดีไซน์ผสานเทคโนโลยีที่ลงตัว‘เอ็กซ์เผิง จีซิกส์’ ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะแบบ Ultra-Smart SUV Coupe ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากนักเขียนนิยายไซ-ไฟ (Sci-Fi) เป็นยานยนต์ไฟฟ้าแบบมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง แบ่ง 2 รุ่นย่อย คือ G6 Standard Range ชาร์จไฟเต็ม ขับได้ไกลสุด 505 กิโลเมตร และ G6 Long Range ชาร์จไฟเต็มขับได้ไกลสุด 625 กิโลเมตร มาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ 800 โวลต์ SiC Architecture ทั้งในส่วนระบบขับเคลื่อนและแบตเตอรี่ ส่งผลให้กินกระแสไฟต่ำ ความร้อนสะสมน้อย และประสิทธิภาพโดยรวมสูง ที่สำคัญติดตั้งเป็นส่วนเดียวกับตัวถัง เรียกว่า Cell Integrated Body (CIB) ช่วยลดน้ำหนักและมีพื้นที่ห้องโดยสารกว้าง มีการอัพเดททั้งเฟิร์มแวร์และซอฟท์แวร์โดยอัตโนมัติ ผ่านระบบออนไลน์ (OTA-Over The Air) ช่วยให้มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยตลอดเวลา และช่วยให้ผู้ขับได้ใช้สิ่งที่ใหม่และทันสมัยก่อนใคร ขณะที่ห้องโดยสารสัมผัสได้ถึงความสะดวกสบายด้วยการตกแต่งล้ำสมัยแบบ ‘Intelligent cockpit’ มีจอแสดงข้อมูลการขับ 10.2 นิ้ว พร้อมทัชสกรีน อเนกประสงค์ (จอกลาง) ขนาด 14.96 นิ้ว พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Full scenario voice assistant 2.0 รองรับ Real time continuous voice command recognition, การใช้งานแบบมัลติโซน และการใช้งานแบบออฟไลน์ เรียกว่าสวยล้ำด้วยรูปลักษณ์ผสานเทคโนโลยีการขับเคลื่อนอย่างลงตัว

++ มั่นใจกับเครือข่ายพาร์ทเนอร์ เพื่อส่งมอบบริการที่ดีที่สุดที่สำคัญ เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการทำตลาดในประเทศไทย ผ่านยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ‘เอ็กซ์เผิง’ ที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีล้ำอนาคต ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการ
ใช้ชีวิตยุคใหม่ และเพิ่มความปลอดภัยในการขับมากยิ่งขึ้น ได้แต่งตั้งพาร์ทเนอร์จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการกลุ่มแรกในประเทศไทย ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล ตลอดจนจังหวัดหลักในแต่ละภูมิภาคจำนวน 12 แห่ง นำโดย เอ็กซ์เผิง รามคำแหง โชว์รูมพร้อมศูนย์บริการครบวงจรที่ได้เปิดให้บริการแล้ว ต่อด้วย สุขุมวิท, ประดิษฐ์มนูธรรม, แจ้งวัฒนะ, ราชพฤกษ์, พัทยา, ราชบุรี, ขอนแก่น, อุบลราชธานี, อุดรธานี, เชียงใหม่ และเอ็กซ์เผิง ภูเก็ต จะทยอยเปิดบริการเร็วๆ นี้ และยังมีผู้สนใจร่วมลงทุน
จากทั่วประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

++รังสรรค์บริการครบวงจร ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
เอ็กซ์เผิง ประเทศไทย ภายใต้การบริหารโดยบริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด ผู้นำธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า
และบริการครบวงจร มอบประสบการณ์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าสู่ผู้บริโภคได้อย่างสมบูรณ์แบบ เช่น สถานีอัดประจุไฟฟ้า บริการประกันภัย บริการสินเชื่อเช่าซื้อ ลิสซิ่ง สินเชื่อรีไฟแนนซ์ และการเงินอย่างครบวงจร บริการหลังการขาย ซ่อมสีและตัวถัง เป็นต้น

0 Shares

เปอโยต์-จี๊ป ไลอ้อน ออโตโมบิล จัดทัพยนตรกรรมรุ่นไฮไลท์ ภายใต้แนวคิด ‘Lucky Number 7’ พร้อมข้อเสนอเกินต้าน บุกงาน BIG MOTOR SALE 2024

เปอโยต์-จี๊ป ไลอ้อน ออโตโมบิล จัดทัพยนตรกรรมรุ่นไฮไลท์ ภายใต้แนวคิด ‘Lucky Number 7’ พร้อมข้อเสนอเกินต้าน บุกงาน BIG MOTOR SALE 2024

เปอโยต์ และ จี๊ป ไลอ้อน ออโตโมบิล ผู้จำหน่ายแบรนด์รถยนต์ฝรั่งเศส เปอโยต์ และ จี๊ป ราชาออฟ-โรด สัญชาติอเมริกัน จัดยนตรกรรมรุ่นไฮไลท์ภายใต้แนวคิด ‘Lucky Number 7’ เข้าร่วมงาน BIG MOTOR SALE 2024 มอบข้อเสนอจัดใหญ่ ให้เยอะ พร้อมเชิญชวนมาร่วมค้นหาความโชคดีจากเลข 7 ที่บูธ A20 ระหว่างวันที่ 23 ส.ค.-1 ก.ย. ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา
ภูยส มังกรกาญจน์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายและการตลาด เปอโยต์ ไลอ้อน ออโตโมบิล กล่าวว่า “BIG MOTOR SALE ครั้งนี้ เราจัดทัพ เปอโยต์ รุ่นไฮไลท์ นำโดย New Peugeot 408 สไตล์สปอร์ต ฟาสแบ็ค ครอสโอเวอร์ ในธีม ‘The Power of Attraction’ หรือพลังแห่งการออกแบบในสไตล์ฝรั่งเศส แบ่ง 3 รุ่นย่อย ได้แก่ New Peugeot 408 Allure และ New Peugeot 408 Allure Plus และรุ่นท็อป New Peugeot 408 GT เครื่องยนต์สันดาปภายใน ราคาเริ่มต้น 1.549 บาท”

นายชยพัฒน์ วนสุวานิช ผู้จัดการฝ่ายขาย จี๊ป ไลอ้อน ออโตโมบิล กล่าวว่า “ยนตรกรรมสายพันธุ์แกร่ง จี๊ป นำเสนอ 2 รุ่นดัง อย่าง New 2024 Jeep Wrangler Rubicon และ Jeep Grand Cherokee Summit Reserve 4xe Plug-in Hybrid ราคาเริ่มต้น 5.49 ล้านบาท พร้อมให้ทุกท่านได้สัมผัสพร้อมจับจองภายในงาน”

++ยอดยนตรกรรมฝรั่งเศส New Peugeot 408 เต็มพิกัดเทคโนโลยีการขับล้ำสมัย
New Peugeot 408 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ 1.6 ลิตร 218 แรงม้า (HP) แรงบิด 300 นิวตันเมตร ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้า ผ่านเกียร์อัตโนมัติ ‘e-EAT8’ 8 จังหวะ ห้องโดยสารล้ำสมัย, พื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังที่กว้างขวาง ด้วยเทคโนโลยี ‘Peugeot i-Cockpit’ เจเนอเรชั่นล่าสุด ติดตั้งมาตรวัด 3 มิติ ขนาด 10 นิ้ว ด้านหน้าผู้ขับ ขณะที่กลางแดชบอร์ดติดตั้งทัชสกรีนอเนกประสงค์ขนาด 10 นิ้ว เอียงเข้าหาผู้ขับเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด

++มั่นใจ คุ้มค่า กับแคมเปญ Lucky Number 7 เมื่อจอง เปอโยต์ ภายในงาน
รับประกันคุณภาพสูงสุด 7 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร*
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 7 ปี ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดระยะทาง*
โปรแกรมบำรุงรักษา Peugeot Value Care นานสูงสุด 3 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร*
พิเศษ! จองและรับรถภายในงาน รับ Chaophraya Dinner Cruise Package มูลค่า 35,000 บาท (เฉพาะ Peugeot 408 Allure และ Allure Plus )*
เปอโยต์ ไลอ้อน ออโตโมบิล ยังมาพร้อมเอสยูวี 3 รุ่นยอดนิยม ภายใต้ชื่อ De Nouveau ทั้ง 2008, 3008 และ 5008 แบบ 7 ที่นั่ง จัดเต็ม Package Peugeot Care


โปรแกรมบำรุงรักษา Peugeot Value Care นานสูงสุด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร*
รับประกันคุณภาพนาน 7 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร*
บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนาน 7 ปี ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดระยะทาง*
++ จี๊ป ยนตรกรรมสายพันธุ์แกร่ง 2 รุ่นใหม่ ดีไซน์โดดเด่นผสานสมรรถนะเป็นเลิศ
New 2024 Jeep Wrangler Rubicon รูปลักษณ์ปรับปรุงใหม่ให้ดูสวยขึ้น ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 2.0 ลิตร 270 แรงม้า (HP) ที่ 5,250 รอบ/นาที แรงบิด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 3,000 รอบ/นาที เกียร์ 8 สปีดอัตโนมัติ ขณะที่ Jeep Grand Cherokee Summit Reserve 4xe Plug-in Hybrid ต้นตำรับเอสยูวีที่มาพร้อมความสะดวกสบาย ผสานสมรรถนะสไตล์ออฟ-โรด อย่างลงตัว มาพร้อมขุมพลังปลั๊ก-อินไฮบริด อันทันสมัย เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ 2.0 ลิตร ผสานมอเตอร์ไฟฟ้า ทำได้ 381 แรงม้า (HP) และหน้าจอระบบสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว

++ พาเหรดข้อเสนอสุดร้อนแรงแห่งปี เพิ่มโอกาสเป็นเจ้าของยนตรกรรมสายพันธุ์แกร่ง
New 2024 Jeep Wrangler Rubicon
โปรแกรมบำรุงรักษา Jeep Service Care นานสูงสุด 3 ปี หรือ 55,000 กิโลเมตร*
ฟรี ชุดบันไดตกแต่งจาก Mopar มูลค่า 80,000 บาท*
Jeep Grand Cherokee Summit Reserve 4xe Plug-in Hybrid
โปรแกรมบำรุงรักษา Jeep Service Care นานสูงสุด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร*
รับประกันแบตเตอรี่ถึง 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร*
Jeep Wrangler Rubicon 4 Doors รุ่น Essential-X และ Jeep Gladiator Rubicon
โปรแกรมบำรุงรักษา Jeep Service Care นานสูงสุด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร*
ฟรี อุปกรณ์ตกแต่ง Mopar รุ่น Essential-X มูลค่า 280,000 บาท (เฉพาะรุ่น Wrangler)*
ฟรี อุปกรณ์ตกแต่ง Mopar รุ่น Essential-X มูลค่า 300,000 บาท (เฉพาะรุ่น Gladiator)*

นอกจากนี้ จี๊ป ทุกรุ่น ยังมาพร้อมการรับประกันคุณภาพสูงสุดถึง 7 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร* และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนาน 7 ปี ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดระยะทาง*

พิเศษ! ลูกค้าที่จองรถยนต์ เปอโยต์ และ จี๊ป ทุกรุ่นภายในงาน รับเพิ่มประกันภัยชั้นหนี่ง พร้อม พรบ. นาน 1 ปี, คะแนนสะสม จาก MGC-MOBILIFE และของที่ระลึกมากมาย

++ ไลอ้อน ออโตโมบิล มุ่งขยายเครือข่าย และบริการหลังการขาย ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
ปัจจุบัน เปอโยต์ ไลอ้อน ออโตโมบิล มีโชว์รูมในกรุงเทพและต่างจังหวัด รวม 6 สาขา คือ สุขุมวิท, เกษตร-นวมินทร์, วงเวียนพระราม 5-ราชพฤกษ์, หาดใหญ่, อุบลราชธานี และภูเก็ต พร้อมผนึกกำลังกับ เอ็มเอ็มเอส บ๊อช คาร์ เซอร์วิส แอนด์ ไทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการซ่อมบำรุงรถยนต์แบบครบวงจร ขยายเครือข่ายการให้บริการหลังการขายอย่างเป็น ทางการ ภายใต้ชื่อ ‘PEUGEOT SERVICE OUTLET’ ครอบคลุมทั่วประเทศ 13 สาขา แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 10 สาขา คือ พระราม 4, งามวงศ์วาน, ลำลูกกา, รังสิต, เพชรเกษม, รามคำแหง, คู้บอน, พุทธบูชา, กาญจนาภิเษก และศรีนครินทร์ พร้อม 3 สาขาในต่างจังหวัด คือ ระยอง, อุบลราชธานี และภูเก็ต ส่วน จี๊ป ไลอ้อน ออโตโมบิล มี 3 สาขา คือ สุขุมวิท, วงเวียนพระราม 5-ราชพฤกษ์ และภูเก็ต

สอบถามข้อมูล โทร. ‘1488 ALWAYS CONNECTED’ ทั้ง จี๊ป และ เปอโยต์ โทร. เบอร์เดียว
LINE: @peugeot_lion
FACEBOOK: Peugeot Lion Automobile
WEBSITE: www.peugeot.co.th

LINE: @jeep_lion
FACEBOOK: Jeeplionautomobile
WEBSITE: www.jeep.co.th

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

0 Shares

เริ่มแล้ว!! HVO น้ำมันไบโอดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่

เริ่มแล้ว!! HVO น้ำมันไบโอดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่

บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้เริ่มทำการทดสอบการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ผสม HVO น้ำมันไบโอดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่สังเคราะห์จากน้ำมันพืชใช้แล้ว ซึ่งจะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 ได้สูงสุด 30% โดยนำมาทดสอบกับรถบรรทุก Isuzu ELF ของบริษัท มนต์ทรานสปอร์ต จำกัด บริษัททำธุรกิจขนส่งชั้นนำของประเทศไทย ภายใต้สภาพการใช้งานจริง

จากการตรวจเช็กล่าสุดที่ระยะวิ่ง 5,000 กิโลเมตร ยังไม่พบปัญหาหรือความผิดปกติแต่อย่างใด ซึ่งการทดสอบในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายส่งเสริม “โซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Multi-pathways to Carbon Neutrality) และคาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือนก.พ. 2568 อีซูซุเชื่อว่าโครงการนี้จะมีส่วนช่วยทำให้ประเทศไทยเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนได้โดยสร้างผลกระทบน้อยที่สุดต่อโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน รวมถึงเครือข่ายการคมนาคมไทย

ติดตามข่าวสารของอีซูซุเพิ่มเติมได้ที่ www.isuzu-tis.com หรือ LINE: @isuzuthai

0 Shares

ฮาวเด้น แมกซี่ ร่วมเปิดตัวโครงการ HIPPO อย่างเป็นทางการ ในกรุงเทพฯ

ฮาวเด้น แมกซี่ ร่วมเปิดตัวโครงการ HIPPO อย่างเป็นทางการ ในกรุงเทพฯ

เดินหน้าภารกิจกำจัดขยะพลาสติก ก่อนไหลสู่ท้องทะเล เพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม


นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับโครงการรักษาสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ในฐานะบริษัทร่วมทุนกับบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) และมูลนิธิฮาวเด้น ร่วมกับบริษัท เซเว่น คลีน ซีส์ จำกัด (Seven Clean Seas) ผู้ให้บริการด้านสิ่งแวดล้อมระดับสากล เปิดตัวโครงการ HIPPO (High Impact Plastic Pollution Remover) อย่างเป็นทางการในกรุงเทพมหานคร เดินหน้าภารกิจกำจัดขยะพลาสติกออกจากแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนไหลสู่ท้องทะเลไทย เพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ที่วัดจากแดง สมุทรปราการ เมื่อเร็วๆ นี้

จิตวุฒิ ศศิบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด และนายกสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย เผยว่า “ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ และมูลนิธิฮาวเด้น ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยประสานพลังกับ เซเว่น คลีน ซีส์ ผู้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ ที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายในการป้องกันพลาสติกหลายล้านกิโลกรัมไม่ให้ไหลลงสู่มหาสมุทร เปิดตัวโครงการ ‘HIPPO’ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เส้นทางน้ำ สายหลักที่ไหลผ่านภาคกลางของประเทศ ซึ่งแต่ละปีพบขยะพลาสติกประมาณ 4 ล้านกิโลกรัม โดย HIPPO ที่ทำงานโดยใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ จะทำหน้าที่ดักจับขยะพลาสติกออกจากแม่น้ำได้ถึง 1.4 ล้านกิโลกรัมต่อปี ช่วยลดขยะพลาสติกที่จะไหลลงสู่ท้องทะเลไทย สร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม”

ความร่วมมือจากหลายภาคส่วนนี้ นับเป็นความหวังในการช่วยกันกำจัดขยะพลาสติกออกจากแม่น้ำรวมถึงมหาสมุทร ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นมา สามารถป้องกันขยะพลาสติกราว 500,000 กิโลกรัม ไม่ให้ไหลลงสู่ท้องทะเลอันล้ำค่า เทียบเท่ากับขวดพลาสติกกว่า 33 ล้านชิ้น

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด
สำนักงานใหญ่ (ลาดพร้าว)
โทร. 02-793-8888
สาขาซีดับเบิลยู ทาวเวอร์
โทร. 02-793-8888 หรือ 02-793-8899
สาขาภูเก็ต
โทร. 076-201-942 ถึง 950 หรือ 076-201-901
อี-เมล : info@howdenmaxi.com

0 Shares

แอสตัน มาร์ติน แบงคอก นำเสนอประสบการณ์ใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Unleash The Iconic Brit Power’

แอสตัน มาร์ติน แบงคอก นำเสนอประสบการณ์ใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Unleash The Iconic Brit Power’

แอสตัน มาร์ติน แบงคอก ผู้นำเข้าและจำหน่ายยนตรกรรม แอสตัน มาร์ติน อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ชวนสัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษ นำเสนอตำนานอันยิ่งใหญ่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Unleash The Iconic Brit Power’ พร้อมสัมผัสหลากหลายยนตรกรรมสปอร์ตสัญชาติอังกฤษ ประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 111 ปี ที่โชว์รูม คริส-คราฟท์ ประเทศไทย ภายในโครงการ ริเวอร์เดล มารีน่า จังหวัดปทุมธานี

ธเนศร์ อนุจารีอาภา ผู้จัดการทั่วไป แอสตัน มาร์ติน แบงคอก กล่าวว่า “วันนี้ แอสตัน มาร์ติน ได้มีการปรับคอนเซ็ปต์ใหม่ ‘Unleash The Iconic Brit Power’ โดยเน้นไปที่ดีไซน์อันงดงามของดีไซน์ เทคโนโลยีล้ำสมัย และความประณีตในทุกรายละเอียด ควบคู่กับสมรรถนะที่พัฒนาจากเทคโนโลยีของรถแข่งฟอร์มูลาวัน”

++ Aston Martin ยนตรกรรมสปอร์ตหรูสัญชาติอังกฤษ ที่น่าหลงใหลที่สุดในโลก
แอสตัน มาร์ติน เป็นยนตรกรรมสัญชาติอังกฤษ ก่อตั้งช่วงปี 2456 ก่อตั้งโดย ไลโอเนล มาร์ติน กับ โรเบิร์ต แบมฟอร์ต ปีนี้ นับว่าครบรอบ 111 ปี ซึ่งทั้งคู่สร้างรถแข่งร่วมกัน เพื่อไปแข่งรายการ แอสตัน คลินตัน ฮิลล์ไคล์ม (Aston Clinton Hillclimb) และคว้าแชมป์ได้สำเร็จ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเกย์ดอน ประเทศอังกฤษ

จุดเด่น คือ ปรัชญาการออกแบบ ‘Golden Ratio’ ที่แตกต่างและไม่ซ้ำใคร ผสานความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมอันเหนือชั้น ก้าวข้ามขีดความจำกัดของนวัตกรรมและความหรูหรา ผ่านการรังสรรค์โดยทีมดีไซน์เนอร์ระดับโลก ผสมผสานเทคโนโลยีดิจิทัลอันทันสมัยเข้ากับมนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมการออกแบบดั้งเดิม ส่งผลให้เป็นยนตรกรรมที่เปี่ยมด้วยความงดงาม ที่มาพร้อมประสิทธิภาพเชิงอากาศพลศาสตร์เหนือระดับ

ปัจจุบัน แอสตัน มาร์ติน ยังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ที่จะเป็นแบรนด์รถยนต์สมรรถนะสูงระดับหรูของอังกฤษที่น่าครอบครองที่สุดในโลก ด้วยการผสมผสานดีไซน์เปี่ยมเสน่ห์ เข้ากับความเป็นเลิศเชิงวิศวกรรม และงานฝีมือสุดประณีต

ยนตรกรรม แอสตัน มาร์ติน ทุกรุ่น ทุกคัน เปรียบเสมือนผลงานชิ้นเอกที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ และวิสัยทัศน์อันก้าวไกลของแบรนด์ พร้อมเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อการก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดยนตรกรรมลักชัวรี่สปอร์ตของโลก

++ สัมผัสแก่นแท้แห่งความเป็น Iconic British Luxury
ภายในงานมีการจัดแสดงยนตรกรรม แอสตัน มาร์ติน หลากรุ่น อาทิ ดีบีเอ็กซ์707 (DBX707) หนึ่งในเอสยูวีที่แรงที่สุดในโลก, ดีบี12 คูเป้ (DB12 Coupe) ที่สุดแห่งยนตรกรรมซูเปอร์ทัวเรอร์ที่สามารถขับได้ทุกวัน, ดีบี12 โวลานเต้ (DB12 Volante) เวอร์ชั่นเปิดหลังคาท้าสายลม ที่ยกระดับความเร้าใจทุกมิติ รวมถึง แวนเทจ เอฟวัน อิดิชั่น (Vantage F1 Editon) ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษของยนตรกรรมสปอร์ตพันธุ์แท้ ได้แรงบันดาลใจจากเซฟตี้คาร์ที่ใช้ในการแข่งฟอร์มูลาวัน ผลิตจำกัดและทรงคุณค่า เพื่อนักสะสมโดยเฉพาะ

++ Aston Martin ‘TIMELESS’ รถมือสองสภาพดี การันตีคุณภาพจากผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ
แอสตัน มาร์ติน ‘TIMELESS’ คือ ยนตรกรรมมือสองสภาพดี ที่ผ่านการคัดสรรและการันตีคุณภาพ โดยผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบริษัท แอสตัน มาร์ติน ลากอนดา ประเทศอังกฤษ และเพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า ก็มีโปรแกรมเพิ่มระยะรับประกัน (Extended Warranty) ที่สามารถซื้อเพิ่มได้สูงสุดนาน 10 ปี

แอสตัน มาร์ติน ยังคงมุ่งมั่นพัฒนายนตรกรรมลักชัวรี่สปอร์ต ที่ได้รับการยกย่องจากผู้คนทั่วโลก ให้เป็นไอคอนที่เติมเต็มความเร้าใจให้ทุกการขับ ตามแบบฉบับของยนตรกรรมอังกฤษพันธุ์แท้

ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ: แอสตัน มาร์ติน แบงคอก
โทร. 02-670-6040 (โชว์รูมพร้อมศูนย์บริการ สาขาพระราม 3)
02-610-9775 (โชว์รูมสาขาสยามพารากอน)
เฟสบุ๊ค: Astonmartinbangkok
อี-เมล: contact@astonmartin-bangkok.com

0 Shares

MGC-ASIA โชว์ฟอร์ม Q2/67 เทิร์นอะราวด์ กำไรทะยาน 50 ล้านบาท เพิ่ม 628.4%

MGC-ASIA โชว์ฟอร์ม Q2/67 เทิร์นอะราวด์ กำไรทะยาน 50 ล้านบาท เพิ่ม 628.4%

ยานยนต์ไฟฟ้า XPENG-ZEEKR ธุรกิจบริการด้านการเงิน ALPHA X – Wealth Lending และ Howden-Maxi หนุนธุรกิจเติบโต เล็งผนึกพันธมิตรลุยธุรกิจรีไซเคิลแบตฯ เสริมแกร่งระบบนิเวศ EV ครบวงจร

บมจ. มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) หรือ MGC-ASIA ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 ทำรายได้จากการขายและบริการ 5,304 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% และ 628.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าตามลำดับ แบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะผลตอบรับดี เร่งเครื่องขยายธุรกิจ รับดีมานด์พุ่ง เซ็นสัญญาตัวแทนจำหน่าย 12 ราย พร้อมเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการต้นแบบ XPENG หัวหมาก รวมถึงศูนย์บริการ ZEEKRศรีนครินทร์และวิภาวดี เดินหน้าขยายระบบนิเวศทางธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร จับมือพันธมิตรศึกษาความเป็นไปได้ธุรกิจรีไซเคิลแบตเตอรี่ EV ขณะธุรกิจให้บริการด้านการเงินครบวงจร ALPHA X – Wealth Lending เริ่มมีผลกำไรจากการดำเนินงาน และธุรกิจประกันภัย HOWDEN MAXI หนุนธุรกิจเติบโต

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 (เมษายน-มิถุนายน) เติบโตแข็งแกร่ง บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 5,304 ล้านบาท เติบโตขึ้น 17% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 628.4% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยรายได้และกำไรสุทธิที่เติบโต มาจากการรับรู้รายได้จากการส่งมอบรถยนต์ที่จองในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2024 นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ และรับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงสู่ยานยนต์ไฟฟ้า บริษัทได้มีการเปิดตัวแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ XPENG ซึ่งเป็นยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะระดับพรีเมียมไฮ-เทค และ ซีคเกอร์ ZEEKR ยานยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม-ลักชัวรี่ ซึ่งได้รับการตอบรับดีกว่าที่คาดการณ์จากการเปิดตัวในงานฯ ที่ผ่านมา และมีการจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ พร้อมส่งมอบรถยนต์ เริ่มรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 3/2567

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 มีปัจจัยส่งเสริมการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ ดังนี้

1) กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (Mobility Retail) ณ วันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทฯ มียานยนต์รอส่งมอบ (Backlog) ทั้งสิ้น 1,235 คัน และเรือยอทช์ AZIMUT รอส่งมอบ 1 ลำ และมีการขยายบริการเช่าเหมาลำ ภายใต้แบรนด์ AZIMUT และ CHRIS-CRAFT เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยว นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนจะขยายธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยในช่วงไตรมาส 3/2567 เตรียมเปิดศูนย์ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ XPENG สาขาหัวหมาก พร้อมลงนามแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่าย รวม 12 ราย และยังได้การตอบรับจากผู้สนใจมาสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง เปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะรุ่น G6 ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ส่วนแบรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า ZEEKR บริษัทฯ เริ่มส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าแล้ว และในช่วงไตรมาส 3/2567 เตรียมเปิดศูนย์ให้บริการครบวงจร สาขาศรีนครินทร์ และวิภาวดี

2) ธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ (Aftersales and Car Maintenance Services) รายได้ของกลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขายและซ่อมบำรุง ถือเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้แก่บริษัทฯ และมีศักยภาพเติบโตตามยอดจำหน่ายยานยนต์ที่เพิ่มขึ้น และบริษัทฯ ยังได้รับสิทธิ์ในการดำเนินธุรกิจศูนย์บริการซ่อมสีและตัวถังรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Approved Body Shop (TAB) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กลุ่มธุรกิจ

3) ธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับ (Car Rental and Driver Services) บริษัทฯ ยังคงเเดินหน้าขยายธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับรถ โดยมุ่งเน้น 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์และให้ความสำคัญกับลูกค้า, พัฒนานวัตกรรมผ่านแอปพลิเคชัน, ร่วมมือกับพันธมิตร, ขยายบริการรถยนต์ไฟฟ้าในหัวเมืองใหญ่, และเพิ่มรถยนต์พรีเมียม รวมถึงรถบรรทุกเชิงพาณิชย์ เพื่อตอบสนองความต้องการ
ที่หลากหลายของลูกค้า

4) กลุ่มธุรกิจอื่นๆ (Other Services) ALPHA X ผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจรที่เกิดจากการร่วมทุนระหว่าง MGC-ASIA และ SCBX เติบโตอย่างแข็งแกร่ง บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานเป็นกำไรสุทธิก่อนตั้งสำรอง (Pre-Provision Operating) เป็นไตรมาสแรก จากการเพิ่มขึ้นของพอร์ตสินเชื่อย่างต่อเนื่อง และส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin) ซึ่งเติบโตจากการขยายธุรกิจ Wealth Lending ให้กลุ่มลูกค้ามั่งคั่ง (High-Net-Worth)รวมทั้งการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินและต้นทุนการดำเนินงานได้ดี ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรเติบโตดีต่อเนื่อง นอกจากนี้ ฮาวเด้นแมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์การนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ตอบรับกระแส ESG และเมกะเทรนด์ต่างๆ โดยมีรายได้สุทธิเติบโต 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการประกันภัยทรัพย์สิน อัญมณี เครื่องประดับ งานศิลปะ และโครงการพิเศษ โดยมีรายได้เติบโตจากลูกค้ารายใหญ่ รายใหม่ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 59 ล้านบาท เกินเป้าหมายที่วางไว้ 3% ซึ่งเกิดจากการควบคุมต้นทุนการบริหารและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถทำตามเป้าหมายการเติบโตที่คาดหวังไว้ประมาณ 7% จากปีก่อน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MGC-ASIA กล่าวว่า “MGC-ASIA มุ่งขยายระบบนิเวศทางธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจร (EV Ecosystem) อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด ผู้นำธุรกิจให้บริการด้านยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจร ได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ PRIMOBIUS บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการรีไซเคิลแบตเตอรี่จากเยอรมนี โดยทั้งสองบริษัทจะร่วมกันศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งธุรกิจรีไซเคิลแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญ ในการส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว”

ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงตอกย้ำความมุ่งมั่นของ นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย ในการเป็นผู้นำธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าอย่างครบวงจร แต่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของบริษัท ในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนผ่านการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและรับผิดชอบต่อสังคม โดยความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีขั้นสูงของ PRIMOBIUS จะช่วยให้ นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย นำแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่หมดอายุการใช้งานกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง ช่วยลดการพึ่งพาทรัพยากรใหม่และลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ ความร่วมมือครั้งนี้ยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลไทย ในการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมคาร์บอนต่ำและเศรษฐกิจสีเขียว

MGC-ASIA มุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ด้วยการขยายระบบนิเวศทางธุรกิจอย่างครบวงจร สอดคล้องกับ Paris Agreement ที่เป็นความตกลงตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change-UNFCCC) ตั้งแต่การจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ชั้นนำ การให้บริการหลังการขายซ่อมบำรุง บริการด้านการเงินและประกันภัย รวมถึงศึกษาความเป็นไปได้ของการดำเนินธุรกิจรีไซเคิลแบตเตอรี่ ซึ่งจะเติบโตอย่างมากในอนาคต เราเชื่อมั่นว่าการลงทุนในธุรกิจเหล่านี้ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่ง เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าครบวงจรตั้งแต่ต้นถึงปลายน้ำ และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว

0 Shares