คลังเก็บหมวดหมู่: เศรษฐกิจ

ธอส. จัดงานมหกรรมทางการเงินออนไลน์ : Digital Event Marketing Fair พบโปรโมชันอัตราดอกเบี้ย 0% 3 เดือนแรก ในวันที่ 9 พ.ย. เวลา 16.00 – 17.00 น. @Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์

ธอส. จัดงานมหกรรมทางการเงินออนไลน์ : Digital Event Marketing Fair พบโปรโมชันอัตราดอกเบี้ย 0% 3 เดือนแรก ในวันที่ 9 พ.ย. เวลา 16.00 – 17.00 น. @Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ “ทำให้คนไทยมีบ้าน” โดยตลอด 70 ปีที่ผ่านมา ได้ทำให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.4 ล้านครอบครัว และยังคงพร้อมเดินหน้าเพิ่มโอกาสให้คนไทยได้มีบ้านเป็นของตนเองและครอบครัวอย่างต่อเนื่อง จึงได้มีกำหนดจัดงาน “มหกรรมทางการเงินออนไลน์ Digital Event Marketing Fair” ในรูปแบบ Live Streaming ผ่านช่องทาง Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ในวันพฤหัสบดีที่ 9 พ.ย. เวลา 16.00 – 17.00 น.

โดยธนาคารได้เตรียมสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ กรอบวงเงินรวม 1,000 ล้านบาท พิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่ทำงานในหน่วยงานที่มีสวัสดิการกับธนาคารตาม “โครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ประเภทไม่มีเงินฝาก” จะได้รับสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษ เดือนที่ 1-3 เท่ากับ 0% ต่อปี เดือนที่ 4 – 12 เท่ากับ 1.90% ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ 2.99% ต่อปี ปีที่ 3 เท่ากับ 3.69% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 2.70% ต่อปี และปีที่ 4 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR-1.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ย MRR ปัจจุบันเท่ากับ 6.90% ต่อปี) ผ่อนต่ำเริ่มต้นล้านละ 3,000 บาทต่อเดือน สำหรับลูกค้ากู้ใหม่ที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม ไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น (รีไฟแนนซ์) และชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย และลูกค้ากู้เพิ่มที่ต้องการกู้เพื่อปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย และซ่อมแซม

พิเศษ!! ฟรีค่าจดจำนอง 0.50% สำหรับลูกค้า 70 รายแรกที่มีวงเงินทำนิติกรรมตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป และ พิเศษต่อที่ 2!! ลูกค้าที่มีวงเงินทำนิติกรรมสูงสุด 7 รายแรก รับฟรีเครื่องดูดฝุ่น Robot ท่านละ 1 เครื่อง และคิดค่าประเมินราคาหลักประกันในอัตราพิเศษ (1,900 – 2,300 บาท) โดยลูกค้าสามารถจองสิทธิ์สินเชื่อบ้าน
อัตราดอกเบี้ยพิเศษนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. เวลา 16.00 น. ถึงวันที่ 13 พ.ย. ยื่นกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย. –
29 ธ.ค. และทำนิติกรรมภายในวันที่ 29 ธ.ค.

นอกจากนี้ ภายในงานยังได้พบกับกิจกรรมพิเศษอีกมากมาย อาทิ เสวนาพิเศษ เรื่อง “สินเชื่อบ้านสวัสดิการ ธอส. ดีอย่างไร” จาก ผู้บริหาร ธอส. เคล็บลับสายมูต้อนรับปีใหม่ “จัดโต๊ะทำงานให้ปัง เคล็ดลับความสำเร็จในหน้าที่การงาน” จากอาจารย์เป็นหนึ่ง วงษ์ภูดร และโอกาสร่วมสนุกในไลฟ์ชิงของที่ระลึกสุดพิเศษจำนวนมาก โดยมีเซเลบริตี้ชื่อดัง “ธัญญา – ธัญญาเรศ เองตระกูล” มาเป็นพิธีกรที่จะมามอบความบันเทิงให้กับผู้เข้าร่วมงานตลอดทั้งงาน พิเศษ!! ผู้เข้าร่วมงานมีโอกาสเล่นเกมส์ลุ้นรับรางวัลมากมาย ประกอบด้วย Gift Voucher โรงแรมสุดหรู มูลค่า 4,500 บาท จำนวน 2 รางวัล และ บัตรแทนเงินสด จาก Tops Supermarket มูลค่า 500 บาท จำนวน 4 รางวัล

สำหรับ “โครงการสวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ประเภทไม่มีเงินฝาก” เป็นโครงการสำหรับข้าราชการ พนักงานของหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรของรัฐ และพนักงานในธุรกิจเอกชนที่ทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน

กับ ธอส. ให้ได้มีโอกาสซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองได้อย่างสะดวกและง่ายมากขึ้น ด้วยการได้รับสิทธิพิเศษ อัตราดอกเบี้ยต่ำ วงเงินกู้สูง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “วงเงินกู้สูง กู้ง่าย อนุมัติไว ดอกเบี้ยต่ำ ผ่อนนานสูงสุด 40 ปี”

ทั้งนี้หน่วยงานที่สนใจ สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ/สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายละเอียดโครงการดังกล่าวได้ง่าย ๆ ผ่านอีเมล์ SmartWelfare@ghb.co.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Mobile Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

0 Shares

“แม็คโคร ปราจีนบุรี” เปิดให้บริการแล้ว วันแรกคึกคัก ลูกค้าแน่นสาขา เดินหน้าสนับสนุนสินค้าเกษตรขึ้นชื่อ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น

“แม็คโคร ปราจีนบุรี” เปิดให้บริการแล้ว วันแรกคึกคัก ลูกค้าแน่นสาขา
เดินหน้าสนับสนุนสินค้าเกษตรขึ้นชื่อ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น

แม็คโคร ผู้นำธุรกิจค้าส่ง ภายใต้ซีพี แอ็กซ์ตร้าฯ เดินหน้าขยายสาขาใหม่ต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดที่จังหวัดปราจีนบุรี โชว์จุดแข็งแหล่งรวมสินค้าอุปโภคบริโภค ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการและลูกค้า พร้อมสานต่อการเป็นคู่คิดธุรกิจที่เคียงข้างสังคมไทย ผ่านการสร้างงานสร้างอาชีพให้คนในท้องถิ่น พัฒนาเกษตรกรและเอสเอ็มอี ด้วยการอบรมเพิ่มทักษะให้ผู้ประกอบการรายย่อยเติบโตอย่างยั่งยืน

นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “แม็คโครมีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจสนับสนุนเกษตรกรและเอสเอ็มอีในพื้นที่ ผ่านการรับซื้อสินค้าเกษตรที่ขึ้นชื่อ อาทิ หน่อไม้หวาน, กระเฉดชะลูดน้ำ, ทุเรียน, ส้มโอ และกระท้อน นำมาจำหน่ายในแผนกอาหารสดที่แม็คโคร เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ สอดคล้องกับเจตนารมณ์การเป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาส ตอกย้ำนโยบายเคียงข้างเกษตรกรไทย อีกทั้งยังเป็นทางเลือกให้กับผู้ประกอบการที่มีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคที่ครบครัน มีคุณภาพ ในราคาประหยัด ช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ สามารถแข่งขันในตลาดได้”

ตอกย้ำผู้นำค้าส่งตัวจริง ที่พร้อมเคียงข้างและสร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการมาอย่างยาวนานกว่า 34 ปี แม็คโครจัดแคมเปญแทนคำขอบคุณกับโปรโมชันลดแรงพิเศษ ขนทัพสินค้า เช่น น้ำมันปาล์ม ตราโบนัส, เป๊ปซี่, พัดลมตั้งโต๊ะ Airy, ส้มฮันนี่เมอกอท ออสเตรเลีย, เอโร่ เนื้อหมูบดแช่แข็ง, ขวดน้ำพลาสติก Super Lock ซื้อ 2 แถม 1 และอื่นๆ อีกมากมาย มาลดกระหน่ำ เฉพาะสาขานี้เท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 2-14 พฤศจิกายน 2566

สาขานี้ถือเป็นแห่งที่ 157 มีขนาดพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร พร้อมสินค้าหลากหลายที่มีคุณภาพ และด้วยศักยภาพอันโดดเด่นของจังหวัดปราจีนบุรีที่ใกล้กรุงเทพฯ เดินทางสะดวก มีการขับเคลื่อนการเกษตรสมัยใหม่ รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยว จึงเป็นศูนย์รวมผู้ประกอบการและลูกค้า สอดรับกับแนวคิดธุรกิจของแม็คโครในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจค้าส่ง ที่พร้อมสนับสนุนชุมชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดให้เติบโต

การเปิดสาขาครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยหัวหน้าหน่วยราชการ และคณะผู้บริหาร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) นำโดยนาง เสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ทั้งนี้ บรรยากาศการเปิดสาขาใหม่วันแรกคึกคักมาก โดยได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้ประกอบการและลูกค้าชาวปราจีนบุรี รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง

ติดตามข้อมูลและข่าวสารต่างๆ ของแม็คโคร ผ่านช่องทาง ดังนี้
-เว็บไซต์ https://www.makro.co.th/
-เฟซบุ๊ก https://th-th.facebook.com/siammakro
-ติ๊กต็อก (TikTok) https://www.tiktok.com/@makrothailand
-ยูทูบ https://youtube.com/@SiammakroOfficial

#ซีพีแอ็กซ์ตร้า #CPAXTRA #แม็คโคร #makro #แม็คโครปราจีนบุรี #สร้างงานสร้างอาชีพ

0 Shares

สตีเบล เอลทรอน เผยผลประกอบการปี 2566 โตต่อเนื่อง ชูแคมเปญ Thai Life, German Quality ดันยอดขายส่งท้ายปี พร้อมเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จตลาดเวียดนามในปี 2567

สตีเบล เอลทรอน เผยผลประกอบการปี 2566 โตต่อเนื่อง ชูแคมเปญ Thai Life, German Quality ดันยอดขายส่งท้ายปี พร้อมเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จตลาดเวียดนามในปี 2567

สตีเบล เอลทรอน ผู้นำตลาดและนวัตกรรมโซลูชันน้ำ มาตรฐานจากประเทศเยอรมนี เผยผลประกอบการปี 2566 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ยอดขายทั่วโลกเติบโต 100% ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ด้านประเทศไทยทำยอดขายทะลุกว่า 1,000 ล้านหรือเติบโต ขึ้น 8% บาท โดยผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะเครื่องทำน้ำร้อน หรือ ฮีทปั๊ม ที่สร้างยอดขายและเติบโตทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง


นายโรลันด์ เฮิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด เปิดเผยเมื่อวันที่2 พ.ย.ว่า สตีเบล เอลทรอน มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจโดยตระหนักถึงการสนับสนุนบริษัทคู่ค้าและพันธมิตร รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์วิศวกรรรมเยอรมันที่มีเทคโนโลยีคุณภาพสูง ส่งมอบการดำเนินการที่ยอดเยี่ยมควบคู่ไปกับการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

สตีเบล เอลทรอน ยังคงยืนหยัดสร้างความสำเร็จมาตลอดปี 2566 โดยเครื่องทำน้ำร้อน Heat Pump เป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นในระดับโลก สามารถสร้างยอดขายเติบโตสูงทั่วโลก ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดเรื่องการประหยัดพลังงานและการลดภาวะโลกร้อน


นายโรลันด์กล่าวต่อว่า นอกจากจะมุ่งเน้นผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อครองใจลูกค้าแล้ว สตีเบล เอลทรอน ยังมุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างทัศนคติที่ดีต่อแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ผ่านแคมเปญการตลาด Thai Life, German Quality โดยมีเป้าหมายที่จะตอกย้ำแบรนด์ สตีเบล เอลทรอน ในความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาโซลูชันเกี่ยวกับน้ำ (Water Solution Expert) มาตรฐานเยอรมัน ที่สามารถตอบโจทย์ครบทุกความต้องการ และเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของคนไทยได้เป็นอย่างดี

สำหรับทิศทางในปี 2567 ซึ่งตรงกับวาระฉลองครบรอบ 100 ปีแบรนด์ STIEBEL ELTRON บริษัทฯ จึง ยังคงมุ่งมั่นที่จะคิดค้น พัฒนานวัตกรรมสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมายของเราผ่านผลิตภัณฑ์โซลูชันเกี่ยวกับน้ำ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในอนาคต

ทั้งนี้ สตีเบล เอลทรอน ตั้งเป้าพร้อมเดินหน้าสานต่อความสำเร็จในการขยายธุรกิจและฐานการตลาดในประเทศเวียดนามและภูมิภาคอาเซียน และเพื่อครองใจผู้บริโภคได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งในเวียดนามได้เปิดโชว์รูมและแต่งตั้งร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ควบคู่ไปกับทำการตลาดผ่านทุกช่องทาง ทั้งยังมองว่าเป็นการสนับสนุนประเทศไทย ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกในภูมิภาคเอเซีย ด้วยศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งทั้งในภาคส่วนของเศรษฐกิจ และแรงงานไทย ที่จะช่วยส่งเสริมการเติบโตให้กับเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ได้ด้วยเช่นกัน

ติดตามข่าวสารจากสตีเบล เอลทรอน รายละเอียดผลิตภัณฑ์ และโปรโมชันทางการตลาดเพิ่มเติมได้ที่ www.stiebel-eltron.co.th และ https://www.facebook.com/STIEBEL ELTRON Thailand, Line ID: @stiebeleltronth

0 Shares

รมว.อุตสาหกรรม ห่วงใยสถานการณ์อ้อยและน้ำตาลทราย สั่ง”สอน.”ดูแลชาวไร่อ้อย ผู้บริโภค และผู้ส่งออกไม่ให้ได้รับผลกระทบโดยเร่งด่วน

รมว.อุตสาหกรรม ห่วงใยสถานการณ์อ้อยและน้ำตาลทราย สั่ง”สอน.”ดูแลชาวไร่อ้อย ผู้บริโภค และผู้ส่งออกไม่ให้ได้รับผลกระทบโดยเร่งด่วน

น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึง สถานการณ์อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ที่อาจส่งผลกระทบต่อเกษตรชาวไร่อ้อย ว่า กระทรวงอุตสาหกรรมมีความห่วงใย พี่น้องเกษตรกรชาวไร่อ้อยอย่างมาก จากต้นทุนการเพาะปลูกที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากปรากฎการณ์เอลนีโญที่ส่งผลกระทบให้เกิดความแห้งแล้งและทำให้ปริมาณผลผลิตอ้อยลดน้อยลง กระทรวงอุตสาหกรรม จึงสั่งการและกำชับให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เร่งหาแนวทางที่เป็นประโยชน์สำหรับชาวไร่อ้อยให้ได้รับผลตอบแทนที่เป็นธรรม ขณะเดียวกันต้องไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมรับทราบการขึ้นทะเบียนน้ำตาลเป็นสินค้าควบคุม 1 ปี ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 31 ต.ค. ที่รัฐบาลเร่งควบคุมราคาเพื่อป้องกันผลกระทบต่อประชาชนผู้บริโภค

“กระทรวงอุตสาหกรรม ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี และกระทรวงพาณิชย์ ที่มีความห่วงใยและเข้ามาร่วมช่วยทั้ง 3 ส่วน คือ ชาวไร่อ้อย ผู้ส่งออก และประชาชนผู้บริโภค โดยกระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมยกระดับความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อดูแลทุกข์สุขของพี่น้องชาวไร่อ้อย ยกระดับอุตสาหกรรมน้ำตาล เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศ”น.ส.พิมพ์ภัทรากล่าว

ทั้งนี้รัฐบาลได้เน้นย้ำว่า พร้อมสนับสนุนเงินชดเชยให้กับเกษตรกร และระบบอุตสาหกรรมอ้อยน้ำตาลทราย โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะเร่งหามาตรการที่เหมาะสมสำหรับการส่งออก อย่างไรก็ตาม วันนี้ (2 พ.ย.66) ในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งน้ำตาลทราย ประกอบด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการคลัง จะร่วมกันหารือแนวทางเพื่อหาทางออกต่อสถานการณ์ดังกล่าวต่อไป

0 Shares

เซ็นทรัล รีเทล” ปลื้ม ธุรกิจในเวียดนาม คว้ารางวัลสุดยอดผู้นำค้าปลีกต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ย้ำความแข็งแกร่งธุรกิจไทยในประเทศเวียดนาม

เซ็นทรัล รีเทล” ปลื้ม ธุรกิจในเวียดนาม คว้ารางวัลสุดยอดผู้นำค้าปลีกต่อเนื่องเป็นปีที่ 3ย้ำความแข็งแกร่งธุรกิจไทยในประเทศเวียดนาม

เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม ประกาศความสำเร็จในอุตสาหกรรมค้าปลีก ด้วยการคว้าอันดับ 1 จากรางวัล 10 บริษัทยอดเยี่ยมในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม ค้าปลีก และบรรจุภัณฑ์ประจำปี 2566 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งจัดขึ้นโดย เวียดนาม รีพอร์ต (Vietnam Report -VNR) บริษัทชั้นนำด้านการรายงาน การประเมิน และการจัดอันดับธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ และบริการในเวียดนาม โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทค้าปลีกที่ดีที่สุดในปีนี้ มาจากรายงานสถานะทางการเงินของบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง และชื่อเสียงของบริษัทที่ได้รับการยอมรับจากชาวเวียดนามมาอย่างยาวนาน สะท้อนภาพการเป็นผู้นำค้าปลีกต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม ที่ดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวเวียดนามให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน

มร. โอลิวิเยร์ แลงเล็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล รีเทล เวียดนาม กล่าวเมื่อวันที่2พ.ย.ว้า ในช่วงปี 2566 ประเทศเวียดนามต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับทุกประเทศทั่วโลก แต่เซ็นทรัล รีเทล ก็ยังคงสามารถรักษาความมุ่งมั่นในการขยายพอร์ตการลงทุนได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมสร้างการเติบโตทั้งในกลุ่มฟู้ด น็อนฟู้ด และพร็อพเพอร์ตี้ ทำให้ปัจจุบันธุรกิจของ เซ็นทรัล รีเทล ในเวียดนาม มีจำนวนร้านค้าปลีกทั้งหมดกว่า 340 แห่ง ใน 40 จังหวัดจาก 63 จังหวัดทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็นร้านค้าปลีกในกลุ่มฟู้ดทั้งหมด 77 แห่ง
ประกอบด้วยไฮเปอร์มาร์เก็ต GO! 38 แห่ง และซูเปอร์มาร์เก็ตอีก 39 แห่ง ทั้งยังมีร้านค้าน็อนฟู้ดอีกกว่า 200 แห่ง และศูนย์การค้า GO! อีก 39 แห่ง โดยเรามุ่งมั่นสร้างแบรนด์ GO! ให้เป็นแบรนด์ในดวงใจ (Top of mind brand) ของชาวเวียดนาม ที่ผู้บริโภคและคู่ค้าทุกคนไว้วางใจในคุณภาพของสินค้าและบริการ ทั้งนี้ยังพร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวเวียดนาม โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนร้านค้าเป็น 600 แห่ง ใน 57 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ด้านออมนิแชแนลในกลุ่มฟู้ด และอันดับ 2 ในกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ของเวียดนาม ภายในปี 2570

“ไม่เพียงแค่การขยายธุรกิจ แต่เซ็นทรัล รีเทล ยังเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวเวียดนามมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ทั้งในด้านการศึกษา สังคม และสิ่งแวดล้อม การได้รับรางวัลสุดยอดค้าปลีกในเวียดนาม 3 ปีซ้อน จึงถือเป็นเครื่องพิสูจน์ความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และสะท้อนถึงความจริงใจของเราที่มุ่งสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศเวียดนาม และในนามของเซ็นทรัล รีเทล ผมต้องขอขอบคุณผู้บริโภคและคู่ค้าในเวียดนามทุกท่านที่สนับสนุน ไว้วางใจ และเชื่อมั่นในเซ็นทรัล รีเทล มาโดยตลอด เราจะยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้าและบริการของเรา เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภค และทำให้ทุกภาคส่วนเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับเซ็นทรัล รีเทล” มร. โอลิวิเยร์กล่าว

0 Shares