คลังเก็บหมวดหมู่: สุขภาพ-ความงาม

เริ่มแล้วประชุมเครือข่าย สสส.โลก INHPF สสส. ไทยเจ้าภาพสานพลังขับเคลื่อนนวัตกรรม สู่สุขภาวะที่เป็นธรรมของคนทุกกลุ่ม ครบรอบ 22 ปีแห่งการขับเคลื่อนสุขภาวะ เดินหน้าผลักดันให้สุขภาพเป็นสิทธิของทุกคนในทุกสังคม

เริ่มแล้วประชุมเครือข่าย สสส.โลก INHPF สสส. ไทยเจ้าภาพสานพลังขับเคลื่อนนวัตกรรม สู่สุขภาวะที่เป็นธรรมของคนทุกกลุ่ม ครบรอบ 22 ปีแห่งการขับเคลื่อนสุขภาวะ เดินหน้าผลักดันให้สุขภาพเป็นสิทธิของทุกคนในทุกสังคม

เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ เครือข่ายกองทุนสร้างเสริมสุขภาพนานาชาติ (the International Network of Health Promotion Foundations-INHPF) จัดการประชุมเครือข่ายกองทุนสร้างเสริมสุขภาพนานาชาติ ครั้งที่ 20 ประจำปี 2566 The 20th International Network of Health Promotion Foundations 2023 หรือ the 20th INHPF Annual Meeting 2023 ภายใต้ธีม “ก้าวต่อไปของเครือข่าย สสส. โลก: ขับเคลื่อนนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพสู่สุขภาวะที่เป็นธรรม” The Next Step of INHPF: Accelerating Health Promotion Innovations towards Equitable Well-being โดยมีผู้เข้าร่วมจากนานาประเทศกว่า 300 คนเข้าร่วม

รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม กรรมการกองทุน สสส. และประธานกรรมการบริหารแผนคณะที่ 7 สสส. กล่าวว่า สสส. ไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเครือข่ายเวทีระดับนานาชาติ INHPF เป็นครั้งที่ 2 หลังจากเคยเป็นเจ้าภาพครั้งแรกในปี 2556 ซึ่งครบ 1 ทศวรรษพอดี ในโลกปัจจุบัน ปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพ มีความท้าทายด้านสุขภาพเกิดขึ้นมากมาย อาทิ ภาระโรคซ้ำซ้อน การเกิดเชื้อโรคอุบัติใหม่ โรคระบาดใหญ่ทั่วโลก เช่น โควิด-19 ขณะเดียวกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก การเปลี่ยนแปลงด้านประชากร การเปลี่ยนแปลงเชิงระบาดวิทยา วิกฤตเศรษฐกิจ และสังคม ล้วนเพิ่มความท้าทายการทำงานสร้างสุขภาพมากขึ้น

“แนวทางการส่งเสริมสุขภาพที่เคยใช้ได้ผลในหลายประเทศ รวมทั้งไทยต้องปรับให้สอดรับกับสถานการณ์สุขภาพที่เปลี่ยนไป จำเป็นต้องพัฒนาแนวคิด นวัตกรรมสร้างสุขภาวะ เชื่อมความร่วมมือข้ามองค์กร ข้ามพรมแดนประเทศ และในวันนี้เป็นวันครบรอบ 22 ปี ของการจัดตั้ง สสส. ตั้งแต่ปี 2544 ได้แสดงบทบาทกลไกนวัตกรรมที่สนับสนุนการดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพทั่วประเทศ จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สสส. ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และบทเรียนการดำเนินงานสร้างเสริมสุขภาพ ช่วยส่งเสริมความร่วมมือของสมาชิก องค์กรพันธมิตร นำไปสู่การประกาศปฏิญญาครั้งแรกของเครือข่าย INHPF ยกระดับมุ่งสู่สุขภาวะที่เป็นธรรมของคนทุกกลุ่ม มุ่งมั่นร่วมกันขับเคลื่อนในระดับพื้นที่ ภูมิภาค และระดับโลก” รศ.นพ.สรนิต กล่าว


ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า 23 ปีที่แล้ว เครือข่าย INHPF หรือ สสส.โลก ถูกก่อตั้งขึ้น เพื่อเสริมสร้างศักยภาพประเทศต่าง ๆ ที่สนใจงานสร้างเสริมสุขภาพประชากรผ่านการดำเนินงานของกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ ก้าวต่อไปของเครือข่ายสสส.โลก จะมุ่งขับเคลื่อนนวัตกรรมสร้างเสริมสุขภาพสู่สุขภาวะที่เป็นธรรม มีแรงบันดาลใจจากมุมมองของทศวรรษต่อไปของเครือข่าย INHPF ที่ต้องขับเคลื่อนกลยุทธ์เชิงนวัตกรรม เพื่อสร้างสรรค์สุขภาวะที่เป็นธรรมสำหรับทุกคน การประชุมครั้งนี้ เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่าย INHPF ผ่านการแบ่งปันความรู้ และประสบการณ์ ส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือซึ่งกันและกัน ร่วมประกาศจุดยืน ยกระดับงานสร้างเสริมสุขภาพสู่วาระสุขภาพระดับโลก

“สุขภาวะที่เป็นธรรม คือการให้สุขภาพเป็นสิทธิของทุกคนโดยไม่แบ่งแยก ไม่ว่าจะเป็นสภาวะสังคม ฐานะทางเศรษฐกิจ หรือความแตกต่างทางเชื้อชาติ มีเป้าหมายเน้นการปรับปรุงระบบสุขภาพ ส่งเสริมสุขภาพที่ไม่พึ่งแต่ระบบรักษาพยาบาลเท่านั้น แต่ยังเน้นปัจจัยทางสังคม และเศรษฐกิจ ที่ส่งผลต่อสุขภาพของบุคคล และชุมชน ความมุ่งมั่นของเครือข่าย INHPF คือการพัฒนาแนวทางใหม่ในการสร้างเสริมสุขภาพที่เป็นธรรม และมีเป้าหมายที่ให้สุขภาพเป็นสิทธิของทุกคนในทุกสังคม อาทิ การขยายตัวของเมืองที่เพิ่มขึ้น การเข้าสู่สังคมสูงวัย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว วิวัฒนาการของโรครูปแบบต่าง ๆ” ดร.สุปรีดากล่าว

ด้านนพ.อเลสซานโดร ดีเมโย ประธานเครือข่ายกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพนานาชาติ The International Network of Health Promotion Foundations – INHPF และผู้จัดการกองทุน สสส. แห่งรัฐวิคตอเรีย ออสเตรเลีย กล่าวว่า ตลอดระยะ 23 ปีที่ผ่านมาเครือข่าย INHPF ได้รับการพัฒนาเป็นกลไกที่แข็งแกร่ง สำหรับการทำงานร่วมกัน และแบ่งปันการเรียนรู้ระหว่างสมาชิกที่หลากหลาย ที่ผ่านมาสมาชิกเครือข่ายได้ร่วมกัน ทำหน้าที่บทบาทเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศต่างๆ ในการจัดตั้งกองทุนเพื่อเป็นกลไกนวัตกรรม เป็นโมเดลที่สำคัญรับคณะศึกษาดูงาน แบ่งปันบทเรียนองค์ความรู้ด้านการสร้างเสริมสุขภาพแก่นานาประเทศทั่วโลก จัดการเวทีวิชาการและเวทีคู่ขนานการประชุมระดับโลก ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อเผยแพร่ต้นแบบแนวปฏิบัติที่ดีของกองทุนสร้างเสริมสุขภาพในเครือข่ายฯ ส่งเสริม และพัฒนาความร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรที่สำคัญ อาทิ องค์การอนามัยโลก และ มูลนิธิเพื่อสังคมอาเซียนปลอดบุหรี่ (SEATCA) ในการผลักดันการดำเนินการร่วมที่สำคัญ โดยเฉพาะการเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศต่างๆ ในการจัดตั้งกองทุนที่ยั่งยืนในการสร้างเสริมสุขภาพ

“สสส. เป็นผู้นำ และเป็นต้นแบบของโลกด้านการส่งเสริมสุขภาวะ และเป็นผู้นำเครือข่าย INHPF ที่มีความพร้อมทั้งด้านนโยบาย การนำไปปฏิบัติที่ประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม การรณรงค์สังคม การพัฒนานวัตกรรม ตลอดจนกลไกสร้างเสริมสุขภาพที่สสส. ได้พัฒนาแนวทางการทำงานใหม่ๆ โดยเฉพาะประเด็นบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารทำลายสุขภาพ ที่ล้วนเป็นปัญหาที่ทั่วโลกต้องเผชิญ โดยเฉพาะการรณรงค์สังคมที่เน้นไปที่กลุ่มเด็ก และเยาวชน ให้มีสุขภาวะดี ซึ่งกลุ่มประชากรสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ทั้งนี้ การประชุมครั้งนี้ช่วยให้ประเทศสมาชิกสามารถเรียนรู้การทำงาน นำไปประยุกต์ใช้ตามบริบทของแต่ละประเทศได้” นพ.อเลสซานโดรกล่าว

0 Shares

ลูกศิษย์“ครูธัญญ์”สร้างชื่อกระฉ่อนในเวทีโลกต่อเนื่องสมัยที่ 4 คว้ารางวัลประกวดนวดหน้าแดนโสมทั้งได้เป็นกรรมการตัดสิน

ลูกศิษย์“ครูธัญญ์”สร้างชื่อกระฉ่อนในเวทีโลกต่อเนื่องสมัยที่ 4 คว้ารางวัลประกวดนวดหน้าแดนโสมทั้งได้เป็นกรรมการตัดสิน

“ครูธัญญ์” ผู้เชี่ยวชาญสอนนวดหน้าพลิกชีวิต เจ้าของแบรนด์ ‘ธัญญ์ญาณี’สุดปลื้มลูกศิษย์ 4 คนคว้ารางวัลนวดหน้าเวทีนานาชาติที่เกาหลีใต้ต่อเนื่องเป็นสมัยที่ 4 อีกทั้งยังได้รับเชิญเป็นกรรมการตัดสิน เผยเคล็ดลับชนะนวดแบบธรรมชาติ ไม่ใช้อุปกรณ์ไฮเทค เน้น 5 ศาสตร์ดังของ 5 ประเทศบูรณาการเพื่อให้หน้ายกกระชับ ย้ำหัวใจสำคัญของการเรียนการสอนชูการตลาดออนไลน์ มุ่งดึงลูกค้าจากทุกมุมโลก ครูธัญญ์-น.ส.ธัญญ์นภัส ภัทร์ฐานนท์ชัย สอนนวดหน้าพลิกชีวิต เจ้าของแบรนด์ ‘ธัญญ์ญาณี’ ให้บริการการนวดหน้ายกกระชับ สอนศาสตร์นวดหน้ายกกระชับ และการสร้างแบรนด์นวดหน้าอย่างมืออาชีพ เปิดเผยว่า นับเป็นปีที่4 ติดต่อกันแล้วที่ลูกศิษย์ของ”ธัญญ์ญานี” คว้ารางวัลจากเวทีประกวดแข่งขันการนวดหน้านานาชาติของสมาคม K-Beauty ที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยเมื่อเร็วๆนี้ ได้ส่งเข้าแข่งขัน 4 ท่าน ปรากฎว่าสามารถคว้ารางวัลมาได้ทั้ง 4 ท่าน ส่วนลูกศิษย์อีกท่านได้รับเชิญเข้าร่วมเป็นกรรมการตัดสิน นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติจากทางประเทศเจ้าภาพ

ครูธัญญ์กล่าวว่า ในการแข่งขันปี 2566 นี้ มีผู้เข้าร่วมแข่งขันการนวดหน้าเกือบร้อยคนจากทั่วโลก มีทั้งจากประเทศจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม ไต้หวัน และไทย โดยทีมธัญญ์ญาณี ได้รับรางรัลดังนี้ น.ส.ศศินันท์ หนูคง ได้รางวัลMASTER GRAND PRIX ส่วนอีก 3 ท่าน คือน.ส.ชาลิศา รัตนอนันตรา น.ส.ศศิร์ภาธร ยอดรัก และน.ส.นุชนารถ เบียะขุนทด ได้รางวัล Gold grand prix ขณะที่ น.ส.อันนาวดี ประพิณ ซึ่งทำงานอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รางวัล GOLD GRAND PRIX เมื่อปีที่แล้ว แต่ในปีนี้ได้รับเชิญให้ไปเป็นกรรมการตัดสิน สำหรับจุดเด่นที่ทีมธัญญ์ญาณี สามารถชนะการแข่งขัน คือสวยด้วยธรรมชาติโดยการใช้ 2 มือในการนวดยกกระชับปรับรูปหน้า แก้ไขปัญหาริ้วรอย ทำแล้วสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ ผิวเฟิร์ม ผิวเด้ง หนังตาที่ตกก็ยกขึ้น ร่องแก้มที่ลึกก็ตื้นขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหนียง คางห้อยสองชั้นก็แก้ได้ ที่เห็นชัดๆเลย คือ กรอบหน้าชัดขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ จึงทำให้ชนะใจกรรมการ

เจ้าของแบรนด์ธัญญ์ญาณี กล่าวถึงสูตรนวดหน้าพลิกชีวิตว่าได้นำ 5 สุดยอดศาสตร์ใน 5 ประเทศมาบูรณาการ เพื่อให้หน้ายกกระชับและเลือดไหลหมุนเวียนดี ส่งผลให้ใบหน้าเปล่งปลั่ง คือ 1. ศาสตร์การเดรนน้ำเหลืองของประเทศอินเดีย 2. ศาสตร์การกดจุดจากประเทศญี่ปุ่น 3.ศาสตร์การนวดหน้าของไทย 4. ศาสตร์การนวดยกกระชับของเกาหลี 5. ศาสตร์การกัวซาของประเทศจีน แล้วเลือกสรรเฉพาะท่านวดที่ทำแล้วเห็นผลลัพธ์ทันทีเท่านั้น ซึ่ง 5 ศาสตร์นี้ทำให้การหน้ายกกระชับขึ้น และจะได้ผลชัดเจนหากมีการนวดอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพควบคู่กันไป

ครูธัญญ์กล่าวอีกว่า มีผู้แข่งขันจากประเทศอื่นมีจุดดีจุดเด่นเช่นกัน อย่างประเทศเจ้าภาพเกาหลีใต้ มีจุดเด่นเรื่องนวัตกรรม ล้ำด้วยเทคโนโลยี เพราะปัจจุบันใช้เทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหาริ้วรอย ไม่ค่อยเน้นเรื่องการนวดด้วยมือแล้ว โดยใช้อุปกร์หลากหลาย จะล้ำกว่าบ้านเราประมาณ 3-4 ปี ส่งผลให้เน็ตไอดอลหลายคนของไทยชอบไปทำศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลีใต้

เจ้าของสถานสอนความงาม‘ธัญญ์ญาณี’กล่าวต่อว่า จากการเปิดสอนเรื่องความงามมา 7 ปี ลูกศิษย์ที่เรียนทั้งอดีตและปัจจุบันมาจากทั่วโลก ทั้งเยอรมัน ดูไบ สวิสเซอร์แลนด์ ล้วนเป็นคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ ได้รับรู้เรื่องการเรียนการสอนจากโซเชียลมีเดีย ซึ่งที่นี่เป็นที่เดียวของประเทศไทยที่ผลิตสื่อออนไลน์ออกมาเยอะที่สุด และนอกจากจะสอนนวดหน้าด้วยแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์ความงามด้วย และสอนลูกศิษย์ในการทำตลาดออนไลน์ เพราะจุดประสงค์หลักคือส่งเสริมลูกศิษย์ทุกคนให้เติบโต ใครมาเรียนที่”ธัญญ์ญานี”ต้องเปลี่ยนชีวิต พลิกชีวิตทุกคน ตามสโลแกนของตนเอง โดยเฉพาะเรื่องรายได้ ซึ่งหลักสูตรนวดหน้าที่สอนไม่ใช่การนวดหน้าทั่วไป แต่เป็นการนำสูตรนวดหน้าชั้นนำของโลก 5 ศาสตร์มาผสมผสานกัน จนเป็นสูตรนวดหน้าพลิกชีวิตของ”ธัญญ์ญานี”

“ทุกวันนี้ต้องบอกเลยว่านวดดีนวดเก่ง ร้านสวย หรือบริการดี ไม่ได้ตอบโจทย์ที่จะสร้างรายรับได้เยอะ สิ่งสำคัญต้องเรียนรู้การทำการตลาด และหัวใจสำคัญที่สุด คือ การทำการตลาดที่รวดเร็ว ได้เงินไว นั่นคือการทำการตลาดออนไลน์ เพราะเราจะไม่ได้ลูกค้าแค่ในจังหวัด หรือในประเทศของเรา แต่ได้ลูกค้าทั่วโลก อีกทั้งไม่สามารถที่จะเลือกแพลตฟอร์มอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ต้องทำทุกอย่างควบคู่กัน เราเน้นทุกแพลตฟอร์ม เพราะมีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายแตกต่างกันไป”ครูธัญญ์กล่าวและว่าการนวดหน้าที่ดี ต้องเริ่มต้นตั้งแต่การลบเครื่องสำอางให้หมดจด การทำความสะอาดผิวหน้า การใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถลบริ้วรอยได้และเพิ่มความกระชับ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของแบรนด์‘ธัญญ์ญาณี’มีครบทั้งหมด

ทั้งนี้จะเห็นว่า คนที่ชอบเรื่องความสวยความงาม โดยเฉพาะการนวดหน้ามีสองประเภท ประเภทแรกชอบใช้เทคโนโลยีเพราะเห็นผลเร็วประเภทที่สองไม่ชอบใช้เครื่อง เน้นธรรมชาติ คือ สวยด้วยมือ ซึ่งการนวดหน้าด้วยมือของ”ธัญญ์ญานี”ก็เหมือนการออกกำลังกายบนใบหน้า ยิ่งนวดหน้า หน้ายิ่งเด็ก ยิ่งนวดหน้าหน้ายิ่งยกกระชับ สวยแบบปลอดภัย ไม่ต้องจ่ายเงินแพง สวยแบบไม่ต้องเสี่ยง

0 Shares